หนังมาใหม่วันนี้ :
หนังมาใหม่ วันนี้

หลบผี ผีไม่หลบ


เรื่องย่อ
เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องทั้งหมดนี้ เริ่มขึ้นเมื่อนักศึกษาวิชาการภาพยนตร์จากสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องภูตผีเพื่อส่งอาจารย์ โดยมีอาจารย์สำอางเป็นผู้นำการเดินทางและกลุ่มนักศึกษา ญา, วิทย์, แป๋ม, ชัย, อู๊ด, บุญมาก การเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกสนานของวัยรุ่นที่ชอบเฮฮา แต่แล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปเมื่อรถบัสที่โดยสารมาเกิดดับไปเฉย ๆ อย่างหาสาเหตุไม่ได้ เหมือนมีฮีโร่มาช่วย อัศวินขี่ม้าขาวก็ไม่ใช่ แต่กลับเป็นควายเหล็ก(รถอีแต๋นเก่าๆ) ขับมาโดย "คำมี" ชาวบ้านผู้ใจเหมือนจะดีที่ผ่านมาพอดี

เรื่องราวเริ่มวุ่นวายคลายเครียดเข้าไปอีก นักศึกษาอีกกลุ่มที่มีอาจารย์ทูนนำมาก็มารถเสียที่แห่งเดียวกัน เป็ด, เปิ้ล, เอส, เจน, หนูนา บังเอิญต้องมาพักที่หมู่บ้านเดียวกัน แถมยังมา ถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีภูตผีสิ่งลี้ลับเหมือนกันอีกต่างหาก ความโกลาหลปนฮา ชิงไหวชิงพริบกันและกันก็เกิดขึ้น 

นักศึกษากลุ่มแรกแกล้งไปหลอกผีอีกกลุ่มจนเจอดีผีของจริงเข้า ทุกคนต้องขวัญกระเจิง ขนหัวลุก เพราะผีที่เจอตัวนี้ คือผีปอบเจ้าประจำของหมู่บ้าน หลังจากที่ซุ่มเก็บตัวมานานหลายปี เมื่อมีกลุ่มนักศึกษาแปลกหน้าเข้าเยือนมันก็เลยกลับมาอาละวาดอีกหน

คราวนี้ยายผีปอบมีฤทธิ์มากว่าทุกครั้ง แม้แต่หมอผีมือดีก็ยังไม่วายถูกลูบคมตามสไตล์ผี นักศึกษาทุกคนที่เห็นเหตุการณ์เข้าเลยขวัญหนีดีฝ่อไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน

แต่เรื่องกลับหักมุมอีกครั้ง เมื่อผู้ใหญ่บ้านที่เป็นที่พึ่งสุดท้าย ก็กลายเป็นผีเสียเอง แล้วพวกนักศึกษาก็เริ่มเข้าใจคำที่ว่า วิ่งป่าราบเป็นเช่นไร

นักศึกษาแปลกหน้าของหมู่บ้านนี้ จะเอาตัวรอดจากการหลอกหลอนของบรรดาผีๆ เหล่านี้ได้ยังไง คงต้องติดตามดูในโรงภาพยนตร์ เพราะขืนขยายความออกไปมุขจะฝืดเสียหมด

หลบผี..ผีไม่หลบพร้อมเข้าฉายปลายมีนาคมนี้ทั่วประเทศ และขอยืนยันจากทีมงานผู้สร้างว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตลก ชนิดที่ต้องตามไปดูจนจบแล้วคนดูจะเข้าใจว่าถูกหลอกแค่ไหน


{[['']]}

ส้มแบงค์มือใหม่หัดขาย


แบงค์ (ปวริศร์ มงคลพิสิฐ) เป็นเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่ในแฟลตเก่าแห่งหนึ่ง กับแม่ผู้ไม่ไยดีเขานัก ทั้งคู่อยู่ร่วมกัน เหมือนต่างคนต่างอยู่ แม่ไม่เคยรู้เลยว่า ลูกชายของเธอไม่เพียงแค่ติดยา แต่เขายังขายยาเองด้วย ส้ม (วนัชดา ศิวะพรชัย) เป็นนักศึกษาสาว ที่ดูภายนอกก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ซ้ำยังเป็นวัยรุ่นที่เอาการเอางาน หาเงินส่งบ้านที่ต่างจังหวัดตัวเป็นเกลียว แต่ใครล่ะจะรู้ว่า งานที่เธอทำอยู่นั้น คือการเป็นหญิงขายบริการ

จิ๊กโก๋ปากซอยกับนักศึกษาสาว... ภายใต้รูปลักษณ์ที่ต่างกันอย่างลิบลับนั้น ส้มและแบงค์กลับเหมือนกัน อย่างไม่ยากที่จะเข้าใจ หนึ่ง.. พวกเขาต้องการเงิน และสอง.. พวกเขาอ่อนหัด และมองโลกสวยงามเหมือนกัน

ด้วยความเหมือนซึ่งมองไม่เห็นนั่นเอง ที่ชักพาเธอกับเขามาพบกัน ปรารถนาในตัวกัน และรักกันในเวลาอันรวดเร็ว ชีวิตที่ได้รับการเติมเต็ม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้แบงค์เริ่มฝันอยากให้ส้มมีความสุข และไม่ต้องทำงานอย่างเดิมอีก เขาดิ้นรนหาทางขายยาให้มากขึ้น ...แต่ยิ่งขายได้มากเท่าไหร่ มันย่อมหมายถึงความเสี่ยง ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

ดูเหมือนว่า ชีวิตของทั้งสอง ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่า จะมาบรรจบกันได้ กลับกำลังดำเนินเป็นคู่ขนาน ไปสู่จุดหมายเดียวกัน... และที่นั่นคือ หายนะ!

ตัวอย่างหนัง





{[['']]}

สังหรณ์



วันที่ดูเหมือนจะเป็นวันธรรมดา กลายเป็นวันที่พลิกชีวิตของเด็กหนุ่มทั้ง 3 คนไปในทันที...
แดน (วรเวช ดานุวงศ์) เด็กหนุ่มท่าทางลุยๆ เอาเรื่อง แต่ก็เป็นคนมีเหตุผล, บีม (กวี ตันจรารักษ์) เด็กหนุ่มอีกคน ที่มีนิสัยขี้โมโหหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย และไม่ยอมใคร และ บิ๊ก (อภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ) เด็กหนุ่มคนสุดท้าย ที่เป็นคนเดียวในกลุ่ม ที่คอยประสานรอยร้าวระหว่าง แดน กับ บีม ทุกครั้งที่ทั้งคู่มีเรื่องขัดใจกัน ทั้ง 3 คน ทำงานอยู่ฝ่ายศิลปกรรม ของนิตยสารฉบับหนึ่ง และเหตุการณ์ทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น ถ้าบังเอิญวันนั้น พวกเขาจะไม่ทำงานผิดพลาด จนถึงขั้นทะเลาะกันอย่างรุนแรง 

ระหว่างที่แยกย้ายกันไปด้วยอารมณ์มึนตึง แดน ก็ถูกภาพหลอนจากบางสิ่ง ที่อธิบายไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองขับรถชนต้นไม้ จนยับไปทั้งคัน แต่เนื้อตัวกลับปราศจากบาดแผล และที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกขนลุกซู่ยิ่งกว่า ก็เมื่อลืมตาขึ้น และมองเห็นยายเฒ่าท่าทางประหลาด ยืนอยู่ตรงหน้า

ส่วน บิ๊ก ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เมื่อสังเกตว่าวันนี้ลมพัดกรรโชกแรงกว่าทุกวัน และเมื่อเขาขับรถมาติดไฟแดง ที่สี่แยกแห่งหนึ่ง เด็กหนุ่มขายพวงมาลัย ก็โผล่พรวดขึ้นมาข้างกระจก และสร้างสัมผัสบางอย่างให้ จนบิ๊กถึงกับพูดไม่ออก

ในขณะเดียวกัน อ้อม (สุภัชญา รื่นเริง) หญิงสาวที่ประวัติไม่เปิดเผย ดูคล้ายจะธรรมดา แต่กลับเหมือนมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ ก็พาตัวเองเข้ามาผูกพันกับบีมอย่างใกล้ชิด และรวดเร็วจนผิดสังเกต

ลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้น และบ่งบอกอย่างเด่นชัดว่า 1 ใน 3 ไม่บิ๊กก็แดน ไม่แดนก็บีม จะถึงฆาต โดยไม่รู้ว่าเป็นผลจากเวรกรรม หรือชะตากรรม ที่เล่นตลกกับเด็กหนุ่มทั้ง 3 คน จึงให้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ แบบนี้ในชีวิต โดยไม่ทันให้ตั้งตัว...

1 ใน 3 คน จะเป็นใคร ? และจะช่วยตัวเองได้อย่างไร ? แล้วอีก 2 คนที่เหลือล่ะ จะช่วยตัวเอง หรือช่วยเพื่อน ในเมื่อไม่รู้ว่าตัวเองหรือเพื่อนกันแน่ที่ถึงฆาต ? และเมื่อรู้แล้วว่าใครถึงฆาต ทั้ง 3 คนจะหาทางออกให้ชีวิตอย่างไร ?

ยายเฒ่าจากมุมมืด เด็กผู้ชายท่าทางแปลกๆ และหญิงสาวที่กำลังมีปัญหาเป็นใคร !?
ศรัทธาแห่งความรัก สร้างปาฏิหาริย์ หรือทำลายกันแน่ !? 


{[['']]}

ว้ายบึ้ม! เชียร์กระหึ่มโลก


เป็นเรื่องราวของ กะเทย 4 คนจากบ้านนอกที่ได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมมีชื่อ แห่งหนึ่งที่จับพลัดจับผลูเข้าชมรมเชียร์ลีดเดอร์แบบไม่ได้ตั้งใจแต่โดนไล่ออกเพราะชมรมเชียร์แห่งนี้มีแต่พวกเกลียดกะเทยพวกเขาหรือเธอทั้ง 4 จึงไปชวนนักรักบี้ของโรงเรียนมาเป็นเชียร์ลีดเดอร์เพื่อเข้าแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ระดับประเทศซึ่งพวกเขาและเธอต้องผ่านอุปสรรคมากมาย

ตัวอย่างหนัง






{[['']]}

เยาวราช



ย่านไชน่าทาวน์แห่งเมืองไทย ที่นี่ได้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ความรัก ความแค้น การต่อสู้ อำนาจ การทรยศหักหลัง เรื่องราวของ เจ้าพ่อ มือปืน มือปืน เมียน้อย เมียใหญ่ พ่อบ้าน หมอดู กระหรี่ และการปะทะทางวัฒนธรรม ที่ไม่เหมือนย่านไชน่าทาวน์ใดๆ ในโลก เพราะนี่คือ เยาวราช! ผลประโยชน์อันมหาศาลของผืนดินเพียงไม่กี่หยิบมือของ เยาวราช แห่งนี้ ปกคลุมด้วยบารมีของเจ้าพ่อที่แบ่งปันพื้นที่ปกครองอย่างสันติมาอย่างช้านาน ฝั่งเยาวราชเป็นอาณาจักรของ เจ้าพ่อตง (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) มี ซาเล้ง (ชาคริต แย้มนาม) เป็นมือขวา ฝั่งพาหุรัดเป็นถิ่นของ เจ้าพ่อดาดา (ฤทธิ์ ลือชา) มี เกาลัด เป็นคนสนิท อำนาจของอีกฝ่ายถูกท้าทาย จนกลายเป็นความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างสองขั้ว เช่นเดียวกับความรักของซาเล้งที่ต้องเลือกระหว่าง ตันหยง (ดาราวัลย์ วิไลงาม) สาวงามเหยื่อกามเจ้าพ่อตง และ ไม้หอม หญิงขายบริการเนื้อหอม เพลิงแค้นและไฟราคะคือสิ่งที่ต้องรอสะสาง แน่นอน.. ต้องเซ่นด้วยเลือด เนื้อและชีวิตของผู้คนที่อยู่วังวนของอำนาจ

ตัวอย่างหนัง




{[['']]}

แฟนฉัน



ภาพแห่งอดีต จริงๆ แล้วมันไม่เคยจากไปไหน มันอาจจะซุกอยู่ที่ซอกหนึ่ง ในลิ้นชักความทรงจำ และอยู่อย่างนั้นมาตลอด จนความทรงจำใหม่ๆ เข้ามาทับ เข้ามาซ้อน ดันมันไปจนสุดลิ้นชัก แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเพลงอย่างนี้แว่วมา หรือเห็นรูปภาพสีเหลืองๆ แดงๆ เก่าๆ ความทรงจำในครั้งนั้น ก็เหมือนถูกมือซนๆ หยิบมันออกมาปลุกให้กลับมามีชีวิต… อีกครั้งหนึ่ง

ทุกคนคงมีภาพความทรงจำในวัยเด็กกันทั้งนั้น เหมือนกันในรูปแบบ ต่างกันในรายละเอียด มีสิ่งที่ชอบเล่นเหมือนกัน ผู้ชายอาจจะมีขี่จักรยาน เป่ากบ ผู้หญิงอาจจะมีกระโดดยาง เล่นขายของ …แต่ผมมีทั้งสองแบบ บางคนอาจจะขลุกอยู่หน้าจอทีวี กับลีลาสุดเท่ของยอดมนุษย์ หรือจอมยุทธจากหนังจีนกำลังภายใน ในขณะที่บางคนอาจจะชอบใช้ชีวิตนอกบ้าน เที่ยวเล่นจนตัวดำ ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กลับมาอีกทีก็เมื่อฟ้ามืด …แต่ ผมเป็นทั้งสองแบบ บางคนอาจจะมีเพื่อนเป็นแก๊งค์ลิงทะโมนอยู่กลุ่มใหญ่ ที่พากันดื้อซนจนแม่ๆ เอือมที่จะด่า ในขณะที่อีกคนกลับมีเพื่อนน้อยมาก เพื่อนที่ซี้ที่สุดอาจจะมีแค่คนเดียว และเป็นเด็กผู้หญิงแก่นกะโหลกด้วยก็มี …และผมก็มีทั้งสองแบบ

น้อยหน่า คือชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะบ้านเราอยู่ติดกัน แถมละแวกบ้านเรา ยังไม่ค่อยมีเด็กวัยเดียวกันอีก เราจึงเล่นด้วยกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการละเล่นแบบผู้หญิง พวกกระโดดยาง เล่นขายของก็ตาม ผมก็สนุกที่จะเล่นกับเธอ จนกระทั่ง…ผมเริ่มโต เริ่มอยากเล่นแบบเด็กผู้ชายที่มันโลดโผนบ้าง ถึงขนาดไปขอเข้าแก๊งค์เด็กผู้ชาย ที่เป็นคู่อริกับน้อยหน่าก็ยอม พวกมันยื่นคำขาด ให้ผมพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายให้มันเห็น ลูกผู้ชายที่เข้มแข็ง สามารถเอาชนะศัตรูได้ และศัตรูของพวกมันก็คือน้อยหน่า และเด็กๆ ผู้หญิงละแวกนั้น …ผมยอมทำ นั่นทำให้น้อยหน่าโกรธผม และอาจจะถึงขั้นเกลียดเลยก็ได้ และที่สำคัญก็คือ ผมไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ เพราะไม่กี่วันต่อมา เธอก็ย้ายบ้านไปที่อื่น คนละจังหวัดกัน และไม่ได้เจอเธออีกเลย

วันนี้ เธอส่งการ์ดงานแต่งงานมาให้ที่บ้านผม สิบกว่าปีที่เราไม่ได้เจอกัน เธอยังจำเพื่อนคนแรกของเธอได้ ลิ้นชักของเธอคงเป็นระเบียบกว่าของผมเยอะ ไม่รู้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือว่าเห็นหน้าผมแล้วเธออาจจะงง ว่าไอ้ชายหนุ่มคนนี้ เป็นคนเดียวกับเด็กชายคู่หูเธอคนนั้นหรือเปล่า แต่ผมก็จะไปงานแต่งงานเธอ เพื่อนซี้เมื่อสิบขวบของผม…แน่ๆ

ตัวอย่างหนัง





{[['']]}

Fake โกหกทั้งเพ


เบ โป้ และ ซุง เป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ชีวิตจึงอยู่ในวัยเริ่มต้นและแสวงหา ทั้ง 3 คน พักอยู่ด้วยกัน แม้จะเป็นเพื่อนสนิทแต่ต่างคนก็มีวิถีชีวิตเป็นของตนเอง หนังเล่าเรื่องของตัวละครทีละตัว โดยเริ่มจากเบ ที่เพิ่งผิดหวังจากการงานและเรื่องรัก ซึ่งอย่างหลังดูจะมีอิทธิพลต่อชีวิตพวกเขามาก หลังจากที่เบถูกคนรักทอดทิ้ง เขาก็เอาแต่เฝ้ารอคอยการติดต่อกลับมาจากแฟนเก่า โดยไม่เป็นอันทำอะไร โป้และซุงจึงส่ง 10 วิธี ที่จะทำให้หายอกหัก มาให้เบปฏิบัติ ซึ่งเบจะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้หรือไม่ คงอยู่ที่ ใจ ล้วนๆ โป้ เพลย์บอยหนุ่ม ที่มีผู้หญิงติดตอมมากหน้า หลังจากผ่านชีวิตแบบนี้มาจนโชกโชน โป้เริ่มตั้งคำถามระหว่างเรื่อง "เซ็กส์กับความรัก" พร้อมกับที่สงสัยตัวเองว่า เขารักใครเป็นหรือไม่ และเมื่อไหร่เขาจึงจะพบกับ คนที่ใช่ สักที แล้ววันหนึ่งโป้ก็ได้พบกับเธอคนหนึ่ง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะใช่ แล้วในที่สุด เธอก็เป็น คนที่ใช่ สำหรับเขาจริงๆ แต่ทว่าโป้จะเป็น คนที่ใช่ สำหรับเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซุง ชายหนุ่มที่โหยหาความรักมาโดยตลอด และก็ค้นหาตัวเองมาโดยตลอดเช่นกัน ซุงทดลองทำงานทุกชนิด เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไรกันแน่หน้าที่การงานพาซุงมาพบกับปวีณา นายจ้างชั่วคราวที่ซุงมารับทำงานให้ หลังจากที่ซุงพบกับเธอ เขาก็มั่นใจว่า คนนี้สิเนื้อคู่! ว่าแล้วซุงก็จัดการฝันหวานถึงความรักระหว่างเขากับเธอ แต่ว่าผลบั้นปลายเป็น แห้ว เหมือนทุกคราวหรือเปล่าก็ไม่รู้


ตัวอย่างหนัง







{[['']]}

บุปผาราตรี 3.2


หลังการกลับชาติมาเกิดของ “บุปผา” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ในร่างของ “เด็กหญิงปลา”(ด.ญ. นัดตะวัน ศักดิ์ศิริ) เด็กน้อยผู้น่าสงสารและโชคร้ายที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณในห้อง 609 ของ “ออสการ์อพาร์ตเม้นต์-ฉบับเรโนเวท” ที่มาพร้อม “บ่อนเถื่อน” ซึ่งบริหารงานนับเงินโดยเจ้าของบ่อนอย่าง “เจ๊สาม” (ฉันทนา กิติยพันธ์) และดำเนินการโกงเนียน ๆ โดย “เซียนต้อม” (ค่อม ชวนชื่น) เซียนพนันที่มี “ลูกกรอกตัวพ่อ” (อุดม ชวนชื่น) คอยช่วยเหลือทุกครั้งที่ลงสนามไฮโล
ฉับพลันชั่ววูบความตาย “ผีปลา” ก็ออกอาการร้อนวิชาเฮี้ยนโหด จัดการบรรเลงเพลงเชือดสยองชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 ยันบ่อนชั้น 3 ที่เหล่าเซียนพนันนานาชาติสิงสถิตย์อยู่
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ “หรั่ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักวาดการ์ตูนผีได้ย้ายมาอยู่ที่ออสการ์อพาร์ตเม้นต์แห่งนี้เพียงไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับบุปผา-หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยไม่รู้ว่าเธอกลายเป็น “ผีบุปผา” ไปแล้ว หาใช่ “พี่บุปผา” คนเดิมไม่
เขาตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน เขาจะต้องบอกรักพี่บุปผาให้ได้ แต่แล้ว “บุพเพสันนิวาส” ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอกัน มันกลับกลายเป็น “บุปผาอาละวาด” จนกระทั่ง...หรั่งสิ้นสติไป
ร้อนถึงเจ๊สามที่ต้องจ้าง “หมอคง หรือ ด๊อกเตอร์คง”(สมเล็ก ศักดิกุล), “หมอผีเขมร” และ “ฤาษีตาไฟ” มาร่วมด้วยช่วยปราบผีบุปผาเฮี้ยนรักโดยด่วน!!!
และในขณะที่ “การสืบคดีเด็กหญิงปลาถูกฆ่า” ของนักสืบเทพ กำลังถูกแก้ปมใหญ่-ไขปริศนาอันน่าสะพรึง ข้างฝ่าย “หมวดอังเคิล-จ่าบุญถิ่น” คู่หูตำรวจสุดป่วนก็ต้องกลับมาเยือนออสการ์อพารต์เม้นต์อีกครั้งด้วยความ (ไม่) เต็มใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อพวกเขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการ “ดักทลายบ่อนเจ๊สาม” เพื่อจับกุมอาชญากรข้ามชาติที่หนีมากบดานที่นี่ให้ได้ โดยงานนี้มี “เดวิด เจียง” มือปราบพระกาฬ (!?!) แห่งเกาะฮ่องกง มาช่วยกันจ้ำอ้าวหนีผีไม่มีอั้น...ซะงั้น
เรื่องราวโกลาหล-งงงวยซวยเป็น “หมู่คณะออสการ์” จะลงเอยอย่างไร กำแพงรักของ “หนุ่มหรั่งและสาวบุปผา” จะถูกฝ่าไปสิ้นสุดตรงจุดไหน
เสียงกรีดร้องฉบับดั้งเดิมพร้อมตวัดปลายมีดโกนของ “ผีสาวตัวแม่รุ่น 3.2” กำลังรอทุกคนมาขมวดปมส่งท้ายความสยองไปพร้อม ๆ กัน
...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด...

ตัวอย่างหนัง




ดูวีดีโอแบบเต็ม




{[['']]}

บุปผาราตรี 3.1




ท่ามกลางความเงียบสงบของอพาร์ตเม้นต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในห้อง 609 มีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะถูกปลุกให้กลับมา “เฮี้ยนสยอง...ยกกำลังสาม”
ณ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ยุคเรโนเวท บริหารงานโดย “เจ๊สาม” (ฉันทนา กิติยพันธ์) พี่สาวของเจ๊สี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ เจ๊สามก็เกิดพุทธิปัญญาจัดการเปิดชั้น 3 ของอพาร์ตเม้นต์ให้เป็น “บ่อนพนันเถื่อน” แบบลับๆ มันซะเลย
ในขณะเดียวกัน “หรั่ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มนักวาดการ์ตูนเรื่องผีๆ ที่สามารถมองเห็นผีได้จริง ก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่ “ออสการ์อพาร์ตเม้นต์” ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง เพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับ “บุปผา” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวใน “ห้อง 609” ที่เหมือนเป็นรักแรก (ข้ามรุ่น) ของเขา
คงเป็นด้วย “ความรักบังตา” หรั่งจึงไม่อาจรู้ได้ว่า “หญิงสาว” ที่เขาหลงรักเป็น “ผีสาวเฮี้ยนรัก” ที่เขาต้องพึงระวังไม่เฉียดกรายเข้าใกล้จะดีกว่า
ทันที่ที่เขาก้าวเข้าสู่ห้อง 609 “บุพเพสันนิวาส” ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอบุปผา มันกลับกลายเป็น “บุปผาอาละวาด” ไปซะงั้น
ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องของ “บุปผา” ผีสาวตัวแม่ก็ดังโหยหวนขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
และแล้วเหตุการณ์ “เฮี้ยนขั้นเทพ-โหดสยองนองเลือด-เชือดไม่เลือกหน้า” ก็ถูกบรรเลงขึ้นชุดใหญ่
ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 จนแตกตื่นไปทั่วทั้งออสการ์อพาร์ตเม้นต์...อีกครั้ง



ตัวอย่างหนัง





ดูวีดีโอแบบเต็ม




{[['']]}

บุปผาราตรี เฟส 2



พวกโจรออกค้นหาทุกซอกทุกมุมในอพาร์ทเมนต์ เหลืออยู่แต่เพียงชั้น 6 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ปิดตายไว้ห้ามไม่ให้ใครเข้าโจรทั้งสี่ไม่ฟังคำเตือน ออกค้นหาเงินในชั้น 6 จนได้พบว่าเงินซ่อนอยู่ในห้อง 609 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำเงินออกจากห้องนั้นได้ เพราะถูกผีเจ้าของห้องออกมาหลอกหลอน โจรทั้งสี่จึงต้องคิดหาวิธีเอาเงินออกจากห้อง 609 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะกลัวผีเพียงไรก็ตาม ขณะเดียวกัน ตำรวจก็เริ่มระแคะระคาย แกะรอยโจรทั้งสี่มาถึงอพาร์ทเมนต์แล้ว...


ตัวอย่างหนัง






{[['']]}

บุปผาราตรี Buppah Rahtree

เจ๊สี่ เจ้าของกิจการอพาร์ทเมนท์ ที่มีธุรกิจเข้าทรงเป็นอาชีพเสริม พออยู่มาวันหนึ่ง อพาร์ทเมนท์ของเจ๊สี่เกิดมีผีสาวปรากฏกายขึ้น จนเป็นที่หวาดผวาต่อบรรดาผู้เช่าห้องพักทั้งหลาย ร้อนถึงเจ๊สี่ ที่ต้องตามหมอผีที่ว่าเก่งมากำจัด แต่ก็ยังโดนผีสาวเล่นงานจนเตลิดเปิดเปิง สร้างความหวาดผวาต่อผู้เช่าอพาร์เมนท์ที่เหลือเป็นอย่างยิ่ง เป็นผลให้กิจการห้องเช่าของเจ๊สี่ทำท่าจะไปไม่รอด
แต่แล้ววันหนึ่ง มีชายหนุ่มนิรนามเดินเข้ามาที่อพาร์ทเมนท์ และหายตัวเข้าไปในห้องผีสิงนั้นอย่างปริศนา นับจากวันนั้น ผีสาวก็ไม่ปรากฏกายให้เห็นอีก จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานนัก ผู้คนก็เริ่มได้ยินเสียงร้องโหยหวนของชายหนุ่มนิรนาม ดังออกมาจากห้องผีสิง ผู้เช่าที่เหลือพากันย้ายออกจนหมด เพราะทนกลัวผีต่อไปอีกไม่ไหว เจ๊สี่หมดทางเลือก จึงตัดสินใจโทรไปตามหมอผีเขมรที่เก่งที่สุด มาจัดการกับผีร้าย ก่อนที่ชายหนุ่มและกิจการอพาร์ทเมนท์ของเธอจะไปไม่รอด
ตัวอย่างหนัง



{[['']]}

ดึก ดำ ดึ๋ย

เรื่องย่อ
ภารกิจเริ่มต้นกับการเดินทางที่ทวีปแอฟริกากับนักผจญภัย 4 คน เช่น เทพ (แสดงโดย เทพ โพธิ์งาม) เด่น (แสดงโดย เด่น ดอกประดู่) มาด (แสดงโดย สามารถ พยัคฆ์อรุณ) และ ระ (แสดงโดย เขาทราย แกแล็คซี่) มีไมเคิล (แสดงโดย ไมเคิล เอดินกรา) ผู้เป็นคนขับรถ และโจอี้ (แสดงโดย โจอี้ เชิญยิ้ม) เป็นผู้บริการต้อนรับแก่ผู้โดยสาร ระหว่างทางที่ขับรถผ่านป่านั้น ก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นรถก็เสียซะก่อน ทั้งหมดได้ออกไปข้างนอก ที่จะรอให้รถติดเครื่องได้โดยที่ไมเคิลกำลังสตาร์ทเครื่องอยู่ รถก็เกิดระเบิดและเครื่องยนต์เริ่มเสียไปที่สุด และทุกคนได้เดินทางด้วยเท้าเปล่าๆ ตกตอนกลางคืนทั้ง 4 เห็นบ้านของ ตา กับ ยาย และ สวย หลานสาวสุดเซ๊กซี่ ระและมาด เล่าให้ตากับยายฟังว่า เขามาว่าจ้างมาทำภารกิจคนตายหลายๆศพ

ในช่วงฝนตก ระได้ออกไปฉี่ข้างนอก ซึ่งได้พบสวยกำลังเดินเล่นอยู่ในต้นกล้วย ระเลยตามไปดูอย่างสงสัย สวยได้ถูกปีศาจชุดดำฆ่า และตา ยายกลายเป็น ผีกระหัง รวมทั้งเผานักผจญภัย 4 คน และกระท่อมหลังนี้ก็ถูกเผาไป หลังจากนั้นได้ไปพบเมืองของคาวบอยและได้พักโรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่ง ทั้ง 4 ได้พบกับผู้จัดการแก่ๆ (แสดงโดย จรัล เพ็ชรเจริญ) คนหนึ่ง และ พนักงานสาวฝรั่งซึ่งให้การต้อนรับและบริการ แล้วยังได้รับรายละเอียดว่า หากใครมาพักที่โรงแรมแห่งนี้จะได้เป็น ศพหมดทุกคน แต่ทั้ง 4 ไม่ยอมใส่ใจใครอยากจะมาพักโรงแรมที่นี่ต่อคืน

ขณะเทพเริ่มปวดท้องอุจจาระขึ้นกำลังจะไปถึงห้องน้ำแล้วก็เหลือบเห็นสาวฝรั่งกำลังว่ายน้ำ แต่ตาของเทพคิดว่าตาจะฝาดจนร่างของสาวฝรั่งหายไป เทพไปถึงห้องน้ำทันที เทพเห็นสาวฝรั่งอีกครั้งกำลังอาบน้ำอยู่และเขาได้ขยี้ตาและสังเกตดูอีกครั้ง แต่ว่าร่างของสาวคนนี้หายไป

ทั้ง 4 เดินออกนอกโรงแรมได้พบกับ ตา ยาย ขายข้าวแกงอยู่ สั่งให้ ทั้ง 4 เฝ้าร้านไว้ และเปิดหม้อดูก็พบหัวของตายาย อยู่ ทั้ง 4 วิ่งหนีกลัวสุดขีด แล้วทั้ง 4 ได้แอบดู สาวผมทองถูกปีศาจชุดดำฆ่าอยู่ ทั้ง 4 เลยออกไปช่วยแต่เจอกับความว่างเปล่าเท่านั้น และได้มาเจอกับลูกน้องของนายอำเภอเข้าพร้อม ลูกน้องของเขา พวกแก๊งค์นายอำเภอยิงใส่ปีศาจตัวนั้น ทุกคนได้เห็นปีศาจชุดดำกำลังร่ายเวทมนตร์ย้อนกลับ จนแก๊งค์นายอำเภอตายและหนีไป ทั้ง 4 วิ่งหนี ไปอย่างไม่คิดชีวิต จนลงเข้าในหมู่บ้านของคนป่า ทั้ง 4 ถูกคนป่าจับตัวไปว่าเป็นศัตรู ในคืนวันหนึ่งได้มีพีธีเผาเสื้อผ้าของทั้ง 4

เมื่อเทพได้เห็นว่ามันเผาเสื้อผ้าหมด และได้พบกับ 4 สาวชาวป่า ได้ไปออกมาจีบชายทั้ง 4 คนได้แยกกันคนละคู่ แล้วสาวชาวป่าถูกฆ่าโดยปีศาจในชุดดำ มาดเห็นสาวชาวป่าตาย ไม่รู้ว่าใครเป้นคนฆ่า ทุกคนเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของทั้ง 4 ที่มาเยือนในหมู่บ้านแห่งนี้ ทั้ง 4 ต้องหนีออกไปจากหมู่บ้านและในป่า ซึ่งเหลือแต่เพียงผ้าเตี่ยวเท่านั้น และต้องเดินผ่านทะเลทรายแทบร้อนระอุของทั้ง 4 คน ขณะนั้นได้เห็น ชายผิวดำ 2 คน เดินเข้ามา เปิดก๊อกน้ำต้นกระบองเพชร จึงตัดสินใจมากินน้ำ

ปรากฏว่าน้ำในต้นกระบองเพชรหมด แล้วทั้ง 4 ก็เดินตามขาของชายผิวดำ 2 คนนั้น ทั้ง 4 ได้เห็นชุดของผู้หญิง จึงตัดสินใจที่จะขโมยเสื้อผ้าของผู้หญิงไปใส่แทน และแล้วทั้ง 4 ได้พบกับกระท่อม ที่ชำแหละศพเป็นจำนวนมาก เข้าใจว่าทั้งหมดเป็นฆาตกรตัวจริง จึงไปปรึกษากับหลวงพ่อ (แสดงโดย กรุง ศรีวิไล) ที่วัดแห่งหนึ่ง เพียงแสดงความเห็นว่าการก่อสร้างเมรุเผาศพไม่ค่อยจะสมบูรณ์สำหรับเผาศพคนตายอย่างมากมาย ทั้ง 4 จึงขอนิมนต์เอาตัวหลวงพ่อส่งให้กับตำรวจพร้อมกับชาวบ้านแล้วนำไปดำเนินกฎหมายของศาลตัดสินคดี ทั้ง 4 เสร็จสิ้นภารกิจจากการหาตัวคนร้ายมาได้ และทุกคนกำลังเดินทางออกจากวัดอยู่ ได้มีสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นไปบนหอระฆังแล้วก็ตีระฆังออกมา มันคือปีศาจในชุดดำปรากฏตัวอีกครั้ง ทุกคนหันไปมองอย่างสงสัยและเดินจากไป ในตอนกลางวัน ทุกคนเห็นรถโดยสารที่ไม่มีหลังคา ทุกคนและหลวงพ่อ ได้นั่งรถโดยสารกลับที่ประเทศไทย

ตัวอย่างหนัง





{[['']]}

ชื่อชอบชวนหาเรื่อง




เรื่องย่อ
เรื่องราวชีวิตสุดหักเหปนเปเสียงฮาเฮ กับชีวิตลูกผู้ชายชื่อแปลกๆ คำเดียวโด่เด่ว่า ชอบ (รับบทโดย สิทธา เลิศศรีมงคล) นายคนนี้กำลังคบหาดูอกดูใจกับ อินทุอร (รับบทโดย เพชรรัตน์ พุ่มคำ) แล้วทำไมล่ะ กับการคบหาผู้หญิง มันผิดแปลกตรงไหน !! ถ้าอินทุอรเป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาก็ไม่เป็นไร แต่เธอเป็นถึงลูกพ่อเลี้ยงผู้กว้างขวาง ใหญ่คับทุกตารางนิ้วของภาคเหนือ! 

เรื่องไม่ธรรมดาก็ไม่ธรรมดายิ่งกว่า เมื่อ พ่อเลี้ยงโพ (รับบทโดย สะอาด เปี่ยมพงษ์ศานต์) พ่อของอินทุอร ให้นายชอบพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อลูกสาว โดยให้นายชอบใช้เวลา 7 วัน เดินทางไปภาคเหนือ และระหว่างทางต้องหาเรื่อง และมีเรื่องไปตลอดทาง จนกว่าจะไม่มีใครกล้าจะหาเรื่องด้วย หากสำเร็จก็จะยกลูกสาวให้ พร้อมสมบัติทรัพย์สินอีกครึ่งหนึ่ง แต่บุพเพกลับอาละวาด ให้มาพบกับ นลิน (รับบทโดย ดาราวัลย์ วิไลงาม) สาวเหนือผู้อาภัพรัก ที่ต้องการกลับเหนือเพื่อรักษาแผลใจ โดยไม่มีเงินติดตัวซักแดง แล้วยุทธการหาเรื่องทั่วราชอาณาจักร ก็เริ่มขึ้นพร้อมคู่หูคนใหม่...



ตัวอย่าง





{[['']]}

คืนไร้เงา


เรื่องย่อ
คืนไร้เงา หรือ One Night Husband ภาพยนตร์ชีวิตแนวลึกลับ เล่าเรื่องของ สิปาง (นิโคล เทริโอ) หญิงสาวสวยทันสมัย เธอพบรักกับ นภัทร (วรวิทย์ แก้วเพชร) ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และตกลงแต่งงานกันในเวลาไม่นาน แต่ก่อนที่ทั้งสอง จะได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข นภัทรก็หายตัวไป หลังจากได้รับโทรศัพท์ลึกลับ ในคืนวันแต่งงาน 

ด้วยความวิตกกังวล กับการหายตัวไปของนภัทร สิปางเริ่มออกติดตามหา ด้วยความช่วยเหลือของ ชาติชาย (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และ บุษบา (สิริยากร พุกกะเวส) พี่ชายและพี่สะใภ้ของนภัทร ชาติชายเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ เขาเป็นคนอารมณ์ร้าย และมักจะระบายอารมณ์ ใส่บุษบาผู้เป็นภรรยาเสมอ ชาติชายดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ ต่อการหายตัวไปของน้องชายคนเดียวนัก เขาได้เล่าเรื่องของนภัทรให้สิปางฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อน ระหว่างการติดตามค้นหานภัทร สิปางได้พยายามเข้ามาใกล้ชิดกับบุษบา เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับนภัทร บุษบาอยู่ในโลกที่แตกต่างกับสิปางอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นแบบฉบับของแม่บ้านช้างเท้าหลัง ที่มีชีวิตอยู่ใต้บงการของสามี สิปางรู้สึกสงสาร และเห็นใจบุษบามาก ยิ่งเมื่อรู้ว่าบุษบามักถูกชาติชายทำร้ายเสมอ ยามใดที่เขาไม่สบอารมณ์ 

เมื่อสิปางเข้าใกล้ความจริง เกี่ยวกับนภัทรมากขึ้น โฉมหน้าใหม่ของสามีคืนเดียวของเธอ ก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นทีละน้อย ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสิปางกับบุษบา ยิ่งนานวันยิ่งแนบแน่น การได้เรียนรู้ชีวิตในโลกที่แตกต่างกัน ทำให้สิปางถึงกับต้องคิดทบทวนความเห็นเดิม ที่เธอเคยมีต่อความรัก การเสียสละ และความหมายของการดำรงชีวิตเสียใหม่ สิปางเริ่มต้นตั้งคำถาม กับทุกอย่างในชีวิต ซึ่งนำไปสู่จุดจบอันน่าสะเทือนใจ !

ตัวอย่างหนัง







{[['']]}

คนปีมะ


เรื่องย่อ
เรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้น เมื่อคนทั้งสี่มาพบกันที่ริมน้ำใต้สะพานซึ่งทั้งสี่คนหนีมาจากคนละทิศ โดยมี นกหนุ่มบ้านนอกเป็นนักมวยที่มีความสามารถและใฝ่ฝันอยากเข้าวงการแสดง แต่ชีวิตต้องผิดหวังเพราะถูกผู้หญิงหลอกจนหมดอาลัยตายอยาก นกบังเอิญได้มาเจอกับ เป้า กุ้ง และ เดวิด ซึ่งทั้งสามคนก็ต่างใฝ่ฝันอยากเป็นในสิ่งที่ตนปรารถนาและใฝ่ฝัน เป้า ฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังแบบ สายัณต์ สัญญา ส่วน กุ้ง เป็นลิเกซึ่งอยากดังแบบ กุ้ง สุทธิราช และ เดวิด นักมายากลซึ่งใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้ไปเล่นเคียงข้าง เดวิด คอปเปอร์ฟิวส์ นักมายากลระดับโลก แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสามคนหนีหัวซุกหัวซุน เข้ากรุงเทพฯ จนพบกันนก

เมื่อทั้งสี่คนตกลงเป็นเพื่อนกันแล้ว พระอินทร์เกิดเห็นใจคนทั้งสี่จึงได้ส่งตัวเทวดานาม สายฟ้า ลงมาช่วยเหลือคนทั้งสี่ แล้วสายฟ้าก็ได้มารวมกลุ่มกับกลุ่ม “ฅนปี มะ” กับเขาด้วย แต่สายฟ้าก็ไม่ได้มีอิทธิฤิทธิ์ จะใช้ได้ยามคับขันหรือบางทีก็ไม่มีเลย จนมาวันหนึ่งกลุ่มปีมะเดินมาถึงสถานสงเคราะห์ได้พบกับ โอ๋ และ บี ทุกคนประทับใจในความสวยและดูมีเมตตาใจดีเหมือนนางฟ้า ซึ่งโอ๋และบี เป็นคนดูแลสถานสงเคราะห์เด็ก “บ้านน้ำใจ” ของนายอำนาจซึ่งเบื้องหลังเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ และเป็นสถานที่ที่ทำให้ได้พบกับ เด็กบอยซึ่งถูก นายอำนาจสั่งตัดตอนครอบครัวบอยจึงหนีเตลิดมาพบกลุ่มปีมะ ซึ่งบอยเองก็ไม่รู้เรื่องแต่แม่บอยได้ให้ของสำคัญไว้กับบอยก่อนที่จะแยกย้ายกันหนีออกมาจากบ้านซึ่งของสำคัญที่บอยติดตัวมานี้ ทำให้นายอำนาจสั่งลูกน้องตามล่าเอามาให้ได้ ทำให้เกิดเรื่องราวยุ่งและเกิดการไล่ล่า โดยกลุ่มคนปีมะ รวมทั้ง โอ๋ และ บี บอย ต้องทั้งสู้และหนีกันจนต้องมาพัวพันกันและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถนำหลักฐานมา จับตัวนายอำนาจและสมุนได้ เหตุการณ์ทุกอย่างจบลงด้วยดี ต่างคนต่างได้ทำในสิ่งที่ปรารถนา ถึงแม้จะไม่เหมือนที่ฝันเอาไว้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีทั้งบทบู้แอ๊คชั่น และเพลงประกอบภาพยนตร์ มีบทเต้นรำซึ่งนักแสดงทุกท่านต้องเข้ารับการฝึกฝนรวมถึงนักแสดงร่วมด้วยเพื่อเพิ่มสีสันของภาพยนตร์ และก็ได้แทรกข้อคิด และมุกตลกไว้ตลอดเรื่อง 

ตัวอย่างหนัง






มีผู้ชมแล้ว.. ..ครั้ง
{[['']]}

พระอภัยมณี


เรื่องย่อ
ท้าวสุทัศน์ เจ้าเมืองรัตนา สองราชบุตร คือ พระอภัยมณี และ ศรีสุวรรณ ไปศึกษาหาความรู้เพื่อมาเตรียมกลับมาปกครองบ้านเมือง แต่เมื่อทรงทราบในภายหลังว่าพระอภัยมณีเรียนสำเร็จวิชาการเป่าปี่ และศรีสุวรรณเรียนจบวิชาการต่อสู้ พระองค์ทรงผิดหวังและกริ้วอย่างหนัก จึงทรงสั่งเนรเทศราชบุตรทั้งสองออกจากราชอาณาจักร ระหว่างที่ร่อนเร่รอนแรมอยู่นั้น ราชบุตรทั้งสองได้พบกับ วิเชียร, โมรา และสานนท์ สามพราหมณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ศาสตราวุธและเวทมนต์คาถา นอกจากนี้ เสียงปี่ของพระอภัยมณีที่ดังไปถึงถ้ำของนางผีเสื้อสมุทร และก่อให้เกิดจิตปฎิพัทธิ์ขึ้นในใจของนางจนเกินหักห้ามได้ นางจึงตัดสินใจลักพาตัวของพระอภัยมณีไปอยู่กับนางในถ้ำ แล้วจำแลงร่างเป็นหญิงสาวผู้เลอโฉม จนกระทั่งมีบุตรด้วยกันหนึ่งคนนามว่า สินสมุทร เมื่อพระอภัยมณีล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของนาง จึงรีบรุดหลบหนีพร้อมด้วยสินสมุทร โดยที่มีนางเงือกสาวที่พระอภัยมณีเกิดจิตพิสวาส พร้อมด้วยครอบครัวของนางเงือก เป็นผู้พาให้พ้นจากเงื้อมมือของนางผีเสื้อสมุทร 

แต่..มีหรือที่นางผีเสื้อสมุทร จะยอมปล่อยให้พระอภัยมณีและบุตรชายหนีไปเสียง่ายๆ ดังนั้นนางจึงแสดงพลังอำนาจด้วยการลงมือไล่ล่าสังหารครอบครัวนางเงือกอย่างโหดร้าย พระอภัยมณีสุดที่จะทานทนต่อไปได้ จึงตัดสินใจเป่าปี่เพื่อจบชีวิตของนางผีเสื้อสมุทรยังผลให้เกิดเรื่องเล่าขานถึงความรักของนางผีเสื้อสมุทรมาจนกระทั่งตราบเท่าทุกวันนี้

ตัวอย่างหนัง



{[['']]}

ผู้หญิง 5 บาป ภาค 2



เรื่องย่อ
ผู้หญิงสาว 5 นางในชุดเซ็กซี่ ที่สภาพขาด ๆ วิ่น ๆ ถูกพันธนาการด้วยโซ่ห้อยจากหลังคาสูง ทั้งหมดเริ่มได้สติ ลืมตางัวเงียผสมงุนงงว่าตัวเองมาอยู่ในสภาพแบบนี้กันได้เช่นไร แต่ต่างคนก็เคยเจอะเจอพบปะกันในแวดวงCelebritiy กันอยู่บ้าง การสนทนาทักทายระหว่างกันดำเนินไปได้สักพัก ก็ปรากฏเสียงลึกลับออกมาบ่งบอกถึงความวิปริตอยู่ในที เพราะเป็นเสียงสังเคราะห์ที่ไม่อาจแยกแยะได้ว่าเป็นชายหรือหญิง หนุ่มหรือแก่ รู้แต่เพียงว่าเสียงนั่นเป็นต้นเหตุที่นำพวกเธอทุกคนมารวมกัน ณ.ที่นี้

เสียงลึกลับกล่าวทักทายทุกคน มันไม่ใช่การบันทึกเทปไว้ เพราะมันสามารถโต้ตอบกับ 5 สาวได้เป็นอย่างดี แสดงว่ามันกำลังจับตาดูทุกคนอยู่ มันบอกว่าเป็นแฟนคลับ และชื่นชอบในความสามารถ ความสวยงามของทุกคน แต่น่าเสียดายที่มันต้องฆ่า 4 ใน 5 อนงค์เพื่อเซ่นทรวงสังเวยแก่เทพโพไซดอนที่มันเคารพนับถืออยู่ แล้วใครกันล่ะคือคนที่จะโชคดีมีโอกาสรอดชีวิตกลับออกไป

ถึงตรงนี้ 5 สาวต่างลนลานกลัวตายกันยิ่งขึ้น บ้างก็ออดอ้อนวิงวอน บ้างก็ขอความเมตตาสงสาร บ้างก็เอาแต่ร้องไห้ แต่มีอยู่ 2 คนที่พยายามเสนอเงื่อนไขเอาตัวเข้าแลกกับอิสรภาพ เสียงลึกลับดูเหมือนจะไม่ใส่ใจในทุกข้อเสนอและความทุนรนทุรายกลัวตายของแต่ละคน เงื่อนไขเดียวของมันก็คือ ให้แต่ละสาวเล่าเรื่องบาปเกี่ยวกับเซ็กซ์ที่ตัวเองก่อขึ้นเอาไว้ เรื่องของใครเลวร้ายที่สุด คนนั้นแหละที่จะถูกไว้ชีวิต ซึ่งการวินิจฉัยเป็นดุลย์พินิจเฉพาะตัวของเจ้าเสียงมรณะ ใครไม่เล่าก็จะถูกดึงร่างแยกส่วนได้ตายอย่างแสนทรมาน ใครโกหกก็จะถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงเพราะมันรู้ในทุกเรื่องของทุกคน อย่าลืมว่ามันคือแฟนคลับเดนตายของ 5 สาว

มาลองติดตามกันดูว่า บาปของทั้ง 5 สาวจะดำเนินไปในรูปแบบใด ใครจะบาปกว่ากัน และใครจะบาปที่สุด พร้อมบทสรุปที่สุดแสนจะคาดเดากับน้องแพนด้าบาปที่ 6 ส่วนจะหักมุมกว่าภาคแรกหรือไม่นั้น คงต้องเชิญทุกท่านไปพิสูจน์ด้วยสายตาของตัวเอง ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 

ตัวอย่างหนัง




มีผู้ชมแล้ว.. ..ครั้ง
{[['']]}

ผู้หญิง 5 บาป ภาค 1


เรื่องย่อ

แอน - จอย - ก้อย – แหม่ม – จุ๋ม ทั้ง 5 คน ต่างเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม จนจบมหาวิทยาลัย ก็แยกย้ายกันไปทำงานในทางที่ร่ำเรียนมา แอน (ศลยา ปิ่นนรินทร์) ไปเป็นพยาบาลตามฝัน, จอย (ทอฝัน จิตธาราทิต) เป็นอาจารย์สอนศิลปะ ส่วน ก้อย (กมลชนก เวโรจน์) จะโชคดีกว่าเพื่อน ตระกูลรวยก็เลยไม่ต้องทำอะไร นอกจากแต่งสวยไปมา ฝ่าย แหม่ม (ชุติมา เอเวอรี่) ก้าวขึ้นสู่ระดับผู้บริหาร ของบริษัทโฆษณาใหญ่แห่งหนึ่ง โดยที่ จุ๋ม (คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา) มีกิจการส่วนตัว จำหน่ายสุกรและเพาะพันธุ์สุนัข

ทั้ง 5 สาว ได้มีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในงานศพของเพื่อนคนหนึ่ง หลังเสร็จงานแล้ว ทั้งหมดตกลงค้างคืนกันที่บ้านจุ๋ม เพื่อรำลึกถึงความหลังร่วมกัน แม้ว่าพวกเธออดจะแปลกใจไม่ได้ว่า เพื่อนๆ ร่วมรุ่นที่เหลือ ต่างหายไปกันจนหมด หลังจากช่วยกันทำกับข้าว รับประทานอาหาร และตบท้ายด้วยไวน์พอตึงๆ แอนก็เป็นคนเริ่มต้น ตั้งประเด็นสนทนาเกี่ยวกับเซ็กซ์ จนถึงจุดที่ว่า ทุกคนต่างต้องมีเซ็กซ์ที่น่าอับอายขายหน้า เป็นเซ็กซ์ที่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครล่วงรู้ได้ เป็นบาปที่ทุกคนรู้สึกผิดมาโดยตลอด และเก็บเงียบไว้ไม่เคยบอกใคร

เมื่อทุกคนคือเพื่อนรัก คือเพื่อนตาย ก็น่าจะถึงเวลาถ่ายทอดความลับที่สุด ของทุกคนให้เพื่อนๆ ได้รับรู้!!



{[['']]}

ผีหัวขาด 2




เรื่องย่อ
ไฝ (อรุณ ภาวิไล) กับ เทือง (อำพล รัตนวงษ์) เป็นเพื่อนกัน ทั้งสองชอบชวนกันไปขโมยเงินจากศพมาใช้ ครั้งนี้ เทืองไปเสียพนันไว้ จึงชวนกันไปหาเก็บเหรียญในปากศพอีกวันจนได้ไปเจอศพคนจีน (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) ซึ่งมีเงินทองมากมาย และ ไอ้ไฝก็ได้สร้อยหยกมาเส้นหนึ่ง แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของไอ้เทืองหัวไปกระแทกกับขอบโลง ทำให้เลือดใหลไปโดนศพผีถั่วแระ จึงทำให้ผีถั่วแระฟื้นคืนชีพ และไล่ฆ่าทั้งสองจนไอ้เทืองตาย แต่ไอ้ไฝหนีรอดไปได้

งานแข่งเรือประจำปีของหมู่บ้าน ไฝกำลังสนุกกับการเชียร์ ผีถั่วแระแฝงตัวเข้าไปในงานไล่ตามฆ่าไฝ หมอเฒ่า (ไพโรจน์ ใจสิงห์) อยู่ในเหตุการณ์จึงปราบโดยสะกดวิญญาณของผีถั่วแระด้วยมีดลงอาคม และแยกหัวกับร่างไว้คนละที่ โดยนำหัวใส่ไว้ในโถโบราณและปิดผนึกอย่างดี ส่วนร่างเก็บป่าช้าตามเดิม ในขณะที่ไฝกลัวผีถั่วแระจะตามฆ่าจึงฝากตัวเป็นศิษย์ตัวของอาจารย์เฒ่า และได้ตุ่ม (เสาวลักษณ์ ศรีอรัญญ์) ลูกสาวของอาจารย์เฒ่าเป็นภรรยา

25 ปีต่อมา เมฆ (ทศพล รถกิจ) ลูกชายของไฝ มีนิสัยเป็นคนชอบช่วยเหลือคนโดยเฉพาะป๋อง (ธเนศ ฉิมท้วม) เพื่อนสนิทของ เมฆ ที่มักมีเรื่องให้เมฆต้องช่วยอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอผกา (ชลธิชา บุญเรืองขาว) กับเพื่อนชื่อ เง็ก (อุบลวรรณ บุญรอด) ผู้หญิงที่ทั้งสองแอบชอบอยู่ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า จึงเข้าไปช่วย สร้างความไม่พอใจให้ สาธิต (เจจินตัย อันติมานนท์) คู่หมั้นของ ผกาเป็นอย่างมาก

ส่วนป๋องนั้นแอบหลงรักเง็ก แต่เง็กไม่เล่นด้วย แถมโดยไล่ตะเพิดด้วยทุกครั้งที่เห็นหน้า จนป๋องทนไม่ไหวได้ขอร้องให้เมฆช่วนเรื่องเง็ก เมฆทนคำขอร้องไม่ไหวจึงยอมช่วย โดยเมฆได้ไปขโมย ตำราปราบผีของพ่อ (ไฝ) เพื่อที่จะมาทำพิธีกลั่นไอเสน่ห์ โดยที่ทั้งสองไปทำพิธีในป่าช้าฝังศพผีถั่วแระ และได้ทำให้ผีถั่วแระฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพราะป๋องได้ไปดึงมีดที่สะกดวิญญาณของผีถั่วแระออก แต่ทั้งสองนั้นไม่รู้

เมื่อผีถั่วแระฟื้นคืนชีพก็จับหนูดูดเลือดเพื่อเพิ่มพลัง และเริ่มติดตามหาหัวของตนเอง และสร้อยหยก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน ผีหัวขาด 2





มีผู้ชมแล้ว.. ..ครั้ง
{[['']]}

ดงพญาไฟ





เรื่องย่อ

กลุ่มสมาชิกชมรมคชบาล ซึ่งศึกษาพันธุ์ช้างเอเชีย พร้อมด้วยนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่กำลังสนใจพันธุ์ช้างเอเชีย ออกเดินทางเข้าไปในป่า เพื่อเดินทางตามหาช้างประหลาด ที่ถูกพบโดยบังเอิญ ตามข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เส้นทางนี้ก็มีอันตราย เนื่องจากเป็นเส้นทางของชนกลุ่มน้อย ที่มีการลำเลียงขนสารแอมเฟตตามีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยาบ้า

กลุ่มคณะสำรวจเริ่มต้นการเดินทาง จากหมู่บ้านเล็กๆ ในป่าลึก จากการเข้าพบผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอให้ช่วยพูดกับนายพรานผู้ชำนาญป่า เป็นคนนำทาง แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะมีนายพรานหลายคน ที่เข้าไปในป่าแห่งนี้แล้ว ไม่กลับออกมาอีกเลย แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ ยังคงยืนกรานที่จะเดินทางเข้าป่าโดยลำพัง เพื่อติดตามหาช้างประหลาดดังกล่าว 

การเดินทางเข้าไปในป่า โดยไม่มีนายพรานผู้ชำนาญทางเป็นสิ่งที่อันตราย แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ ด้วยความหวังที่จะตามหาช้างให้พบ โดยจะต้องผ่านเส้นทางที่อันตราย และยากลำบาก แต่เมื่อเดินทางเข้าไปยังไม่ถึงครึ่งทาง ทั้งหมดก็ต้องตกตะลึง เมื่อเผชิญกับหลุมตะขาบยักษ์ อาศัยอยู่นับร้อยนับพันตัว และก็ต้องพบกับความสูญเสีย เมื่อหนึ่งในคณะเดินทาง ตกลงไปในหลุมตะขาบที่น่าสยดสยอง ส่วนหัวหน้ากลุ่มสมาชิกชมรมคชบาล ที่นำคณะสำรวจเข้าป่า ตั้งใจที่จะค้นหาช้างประหลาดนี้ให้พบ กลับบาดเจ็บสาหัส จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว และไม่อยากเป็นภาระของคนอื่นๆ จึงตัดสินใจยิงตัวตายในคืนนั้น

กลุ่มคณะสำรวจที่เหลือจำต้องเดินทางต่อ พร้อมด้วยพรานธงที่เดินทางตามมาสมทบ ตามคำขอร้องของผู้ใหญ่บ้านให้ตามเข้ามาดูแล

กลุ่มคณะสำรวจนี้จะตัดสินใจเดินทางต่อ หรือกลับออกมาจากป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย..? พวกเขาจะตามหาช้างป่า ที่มีลักษณะประหลาดได้หรือไม่ ? การผจญภัยของพวกเขา ที่จะต้องเดิมพันด้วยการสูญเสีย เพื่อแลกกับความอยู่รอด เรื่องราวของความหวัง มิตรภาพ การผจญภัยในดินแดนเร้นลับ ที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป...
    
ตัวอย่างหนัง






{[['']]}

ผีหัวขาด 1





เรื่องย่อ
ไอ้เดี่ยว (ต๊ะ ณานิศ ใหญ่เสมอ) เป็นเด็กหนุ่มกำพร้าผู้ได้ร่ำเรียนวิชามวยมาจากพ่อที่เป็นนักมวยเก่า ก่อนที่พ่อตายจากไป ท่านสั่งเสียให้ไอ้เดี่ยวออกตามหาเพื่อนเก่าชื่อ โกร๋น (เทพ โพธิ์งาม) ที่หมู่บ้านใต้ เมื่อย้ายไปที่นั่น ไอ้เดี่ยวตัดสินใจลงแข่งควายกับสมพงษ์ และต่อยมวยกับไอ้มาด (ธนิสร สัตยมงคล) ในงานประจำปีของหมู่บ้าน เพื่อหาเงินมาช่วยปลดหนี้ให้เพื่อนใหม่ชื่อไอ้หมึก (ชูศรี เชิญยิ้ม) ไอ้เดี่ยวเริ่มถูกไอ้มาดและสมพงษ์เขม่น เพราะนอกจากจะชนะทั้งต่อยมวยและแข่งความแล้ว สาวสวยประจำหมู่บ้านอย่าง ทับทิม (นพวรรณ ศรีนิกร) ยังดูจะมีใจให้ไอ้เดี่ยวอีก หลังจากการแข่งชกมวย เสือเม่น (อภิชาติ ชูสกุล) ลอบเข้าไปตัดเศียรพระในโบสถ์ ไอ้เดี่ยวเห็นเข้าจึงตามไปขัดขวาง แต่ถูกไอ้มาดและสมพงษ์ดักทำร้าย ไอ้มาดใช้มีดฟันคอเดี่ยวตายคาที่ ท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง และเกิดสายฟ้าฟาดลงตรงเศียรพระที่ไอ้เดี่ยวชิงคืนมาจากเสือเม่น จนเศียรพระนั้นละลายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดี่ยวกับร่างไอ้เดี่ยว ทำให้ไอ้เดี่ยวได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมากลายป็น ผีหัวขาด กลับไปจัดการกับพวกมารศาสนา และชำระแค้นกับคนที่ฆ่ามัน เพื่อนำความสงบสุบกลับคืนมาสู่หมู่บ้านใต้อีกครั้ง ก่อนที่ร่างมันจะหายไปพร้อมกับแสงตะวันของวันใหม่

ตัวอย่างหนัง







{[['']]}

ชุมเสือแดนสิงห์ ตอน กระตุกติ่งเจ้าพ่อ


เรื่องย่อ

ปฎิบัติการแย่งชิง ติ่ง (อาร์ต อัจฉริยา บัวสุวรรณ) หวานใจ เจ้าพ่อ ที่มีเรื่องราวความรัก ความแค้นเข้าามาเกี่ยวพันวุ่นวายไปหมด ในยุคเสื่อมที่ทุกคนหันไปเป็นโจร เสือใหญ่ เจ้าพ่อใหญ่ที่โหดเหี้ยมแต่เชื่อเรื่องโชคลางอย่างแรง เจ้าของชุมโจรเสือใหญ่ ภายในเมืองคนดี เกิดถูกฝันร้ายทักว่า ต้องแต่งงาน ไม่งั้นตาย เสือใหญ่จึงมอบหมายให้เสือเล็กน้องชาย ออกตามหา ติ่ง สาวปริศนา ที่มีปานแดงรูปหัวใจที่หน้าอก โดยมี สมร ปืนคู่,ริบูรณ์ รถถัง และสนิม ซ่อมรถ สามสมุนตัวป่วน พร้อมพวกโจรที่ว่างงานมานานกว่า 100 ชีวิต ตามไปเป็นลูกมือ แต่แผนการทั้งหมดกลับไปเข้าหู พวกชุมชนมืด กลุ่มคนที่โกรธแค้นและต้องการโค่นล้มเสือใหญ่ โดยไม่มีใครคิดว่า ติ่ง ที่เสือใหญ่กำลังตามหา คือลูกสาวขี้เมาของ หัวหน้าชุมชน นั่นเอง

ตัวอย่างหนัง









มีผู้ชมแล้ว.. ..ครั้ง
{[['']]}

ตำนานกระสือ


เรื่องย่อ
ปฐมเหตุ จุลศักราช 582 (พุทธศักราช 1763) 

ลโวทยปุระ หรือกรุงละโว้ราชธานี ศูนย์กลางอำนาจของอาณาจักรขอม ซึ่งเคยแผ่อิทธิพล ครอบครองดินแดนสุวรรณภูมิตอนล่างมาช้านาน ถูกพระยาแกรก กษัตริย์ไทยผู้เรืองเดชานุภาพ โค่นล้มล่มสลายไปแล้ว ส่วนทางด้านตอนบน ซึ่งมีเขมรราชปุระเป็นศูนย์อำนาจ รวมทั้งเมืองบริวารใหญ่น้อย ก็ถูกชนเผ่าไทย อันประกอบด้วยขุนศรีอินทราทิตย์ ขุนผาเมือง ขุนบางกลางท่าว และเจ้านครอื่นๆ อีกหลายหัวเมือง รวมกำลังกันโค่นล้มอำนาจขอม ยกพลเข้าโจมตีเขมราชปุระ แตกพ่ายยับเยิน พระเจ้าสุเรนทราวรมัน ผู้ครองนครต้องอาวุธสิ้นพระชนม์ ราชวงศ์ล่มสลาย ราษฎรที่รอดตายและหลบหนีไม่ทัน ถูกกวาดต้อนเป็นทาสเชลย กระจัดพลัดพรากไปคนละทิศละทาง ขุนหาญศึก (เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์) เจ้าเมืองเชียงอินทร์ ก็กวาดต้อนครัวขอมมาเป็นเชลย เช่นเดียวกับเจ้าเมืองอื่น ซึ่งในจำนวนเชลย เหล่านั้นมี นางตาราวตี (ลักขณา วัธวงส์ศิริ) กับ แม่เฒ่ากาลา (พิสมัย วิไลศักดิ์) ผู้เป็นย่าทวดรวมอยู่ด้วย

ตาราวตี ซึ่งกำลังรุ่นสาวหน้าตาสะสวย ถูกคัดเลือกเป็นสนมนางห้ามบำเรอเจ้าเมืองด้วยความจำใจ เนื่องจากนางมีจิตปฎิพัทธ์ผูกพันอยู่กับ เจ้าฟ้าแจ้ง (ณัทธร สมคะเน) นักรบหนุ่มคนหนึ่งของขุนหาญศึก ทั้งคู่รักลอบพบปะกันและถูกจับได้ เจ้าฟ้าแจ้งถูกตัดคอ ส่วนตาราวตีถูกคุมขังไว้ใต้ถุนปราสาท รอการประหารด้วยการเผาทั้งเป็น ก่อนวันประหาร นางเฒ่ากาลาได้รับอนุญาต ให้เข้าเยี่ยมญาติรุ่นโหลนเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อสั่งเสียร่ำลากัน

แม่เฒ่ากาลา จอมขมังเวทย์วัยเกินร้อยห้าสิบปี เพิ่งผ่านการประกอบพิธีเรียกสารปรอท ประจุอาคมเข้มขลังทรงมหิทธานุภาพเข้าร่างกาย เพื่อยืดชีวิตยืนยาวออกไปโดยไม่มีกำหนด แต่ชะตากรรมของโหลน ซึ่งนางรักใคร่ห่วงใยยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น ทำให้แม่เฒ่าตัดใจยอมสละความเป็นอมตะ ถ่ายทอดพลังชีวิตนิรันดร์ พร้อมทั้งคาถากำกับบทสั้นๆ ให้ตาราวตี (ภาษาเขมร - จีเวียะ เจยย์ กาลล์ - ชีวิตยืนยาวไร้กาลสิ้นสุด) ก่อนที่ร่างชราของเจ้าตัว จะยุบแฟบห่อเหี่ยว ผุกร่อนยุ่ยสลายกลายเป็นภัสมธุลีไปในบัดดล

รุ่งขึ้นถึงวันประหาร ตาราวตีก็ถูกพันธนาการติดเสาหินต้นใหญ่ กลางที่ประชุมชน และสุมฟืนจุดไฟลุกโพลง ซึ่งนางก็ตั้งสติจรดสมาธิแน่วแน่ โอมอ่านท่องทวนคาถาบทสั้นๆ ของย่าทวดตลอดเวลาโดยไม่หวั่นไหวว่อกแว่ก พอไฟโหมหนักท่วมท่อนล่าง จิตวิญญาณก็ถอดกายทิพย์ออกจากกายเนื้อ ซึ่งถูกแม่พระเพลิงเผาไหม้ไปกว่าครึ่ง นางจึงถอดได้แต่หัวกับไส้ เห็นเป็นเงาสีน้ำเงินสว่างเรืองลอยหนีหายลับ

ขณะเดียวกัน ที่หมู่บ้านเล็กๆ นอกเมืองห่างออกไปไกลพอประมาณ นางดาว (ลักขณา วัธวงส์ศิริ) ลูกสาวของเฒ่าดวง (ฉัตร มงคลชัย) ได้ล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และสิ้นลมหายใจกระทันหัน ญาติพี่น้องรวมทั้ง เจ้ารุ่ง (นักรบ ไตรโพธิ์) หนุ่มคนรัก กำลังจะเตรียมงานศพ จิตวิญญาณของตาราวตีได้โอกาสเข้าสวมร่างแทน ทำให้สาวรุ่นลูกสาวเฒ่าดวง ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาโดยไม่มีใครคาดฝัน

แต่การคืนชีพครั้งนี้ เธอกลับกลายเป็นคนที่อารมณ์ และความรู้สึกนึกคิดแปรปรวนสับสน บางทีก็เป็นตาราวตี และ พูดภาษาขอม บางหนก็กลับมาเป็นสาวดาวคนเดิม พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทำให้เพื่อนบ้านมองด้วยสายตาแปลกๆ และซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา ล้วนแต่ในแง่ที่ไม่เป็นมงคลทั้งสิ้น นางเอื้อย ซึ่งแอบหลงรักอ้ายรุ่งอยู่ และโกรธแค้นที่นางดาวกลับฟื้นขึ้นมาเป็นก้างขวางคอ ฉวยโอกาสปรักปรำ กล่าวหาว่าเป็นเพราะผีเจ้าเข้าสิง แถมยังพยายามชักจูงยุยงคนอื่นๆ ให้คล้อยตาม

แต่ไม่ว่าใครจะคิดยังไง อ้ายรุ่งก็ยังมั่นคงต่อคนรักไม่เปลี่ยนแปลง และไม่เห็นว่านางดาวจะผิดปกติตรงไหน เช่นเดียวกับเฒ่าดวงผู้เป็นพ่อ ซึ่งห่วงใยในอาการป่วยไข้ของบุตรสาว มากกว่าที่จะสนใจเรื่องอื่น

ขณะเดียวกัน อีกคนหนึ่งที่ชาวบ้านต่างพากันเพ่งเล็งว่า จะถูกผีร้ายเข้าสิงสู่คือ ยายจัน หญิงชรารูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์วัยกว่าหกสิบ ซึ่งอาศัยอยู่ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้านตามลำพัง กระท่อมของแกไม่มีใครอยากเฉียดใกล้ นอกจากหลานสาวชื่อ นางแก้ว ที่คอยส่งข้าวส่งน้ำเป็นประจำ กับเด็กซนๆ ลูกทะโมนสามสี่คน ซึ่งมักออกไปยิงนกยิงหนู หรือหาของป่าในละแวกใกล้เคียง

ล่วงเข้ากลางคืน ตาราวตีในร่างของนางดาวก็ลุกออกจากที่นอน เที่ยวค้นหาของกินในบ้านด้วยความหิวโหย แต่ก็ไม่เจอของสดของคาวที่ต้องการดับกระหาย พอเฒ่าดวงผู้เป็นพ่อได้ยินเสียงผิดปกติ และร้องถามเธอก็กลับเข้าห้องนอน แล้วถอดหัวลอยออกนอกหน้าต่าง

ช่วงเวลานั้น หัวขโมยสองคน ซึ่งลักควายจูงหนีข้ามทุ่งมา กำลังถูกเจ้าของควายพาพรรคพวก แกะรอยตามล่าอย่างไม่ลดละ เมื่อจวนตัว ทั้งคู่ก็ทิ้งควายไว้ที่ชายทุ่ง และเปิดหนีเอาตัวรอด ปีศาจสาวซึ่งหิวจัดสบจังหวะเหมาะ พุ่งเข้าจู่โจมกัดหลอดลมควายล้มลงขาดใจ แล้วกัดกระชากเปิดท้อง ลากตับไตไส้พุงออกมากิน พวกเจ้าของควายตามมาพบเข้า พากันเตลิดหนีด้วยความตกใจกลัว และขนานนามปีศาจร้ายว่า "อีผีลากไส้" ตามพฤติกรรมสยดสยองที่พบเห็น หลังจากอิ่มหนำแล้ว ปีศาจสาวตาราวตีก็ลอยกลับบ้าน และคืนเข้าร่างเดิม

รุ่งเช้า ยายจันออกไปปลดทุกข์ และเจอซากควายถูกแหวะท้องนอนตายที่ชายทุ่ง นางจึงแอบตัดเอาเครื่องในที่ยังเหลือส่วนหนึ่งกลับกระท่อม ส่วนนางดาวตื่นขึ้นมา เห็นเงาตัวเองในตุ่มน้ำ มีแต่คราบเลือดเปรอะ เลอะเทอะเต็มปากคอและผมเผ้า เธอรีบจัดการชำระด้วยความตื่นตระหนก และงุนงงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น กัดกินเครื่องในเป็นประจักษ์พยานให้เห็นอยู่เต็มตา สร้างความตื่นพรั่นหวั่นกลัวแก่ชาวบ้านยิ่งนัก และเมื่อมีคนไปพบเครื่องในควายบางส่วน ตกหล่นบริเวณใกล้ๆ กระท่อมยายจัน ใครต่อใครก็พากันเพ่งเล็งหญิงชราหนักขึ้น พอตกค่ำเข้าไต้เข้าไฟ ทุกเหย้าเรือนต่างก็เตรียมการป้องกันทั้งผู้คน และสัตว์เลี้ยงเป็นโกลาหล แต่ละบ้านจัดแจงชักบันไดขึ้น ปิดประตูหน้าต่างดับไฟเงียบเชียบ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่รู้สึกหวาดกลัวไปด้วย อย่างเช่นเฒ่าแจ้งกับอ้ายบุญสัปเหร่อประจำวัด ซึ่งคลุกคลีกับผีสางซากศพจนคุ้นเคยชิน มองเห็นเป็นของธรรมดา ทั้งคู่ยังคงชวนกันกินเหล้า เมาแอ่นเดินกลับบ้านค่ำมืดดึกดื่นเป็นประจำเช่นเคย

ดึกสงัด ปีศาจร้ายในคราบสาวดาว ก็ถอดหัวล่องลอยออกหากินตามประสา และเมื่อมุ่งไปยังคอกขังวัวควายของชาวบ้าน ก็ปรากฎว่าทุกแห่งถูกสะหนามไว้หนาแน่น ไม่อาจผ่านเข้าไปได้ ปีศาจสาวจึงหันไปเล่นงานไก่ในเล้าแทน ซึ่งการที่ไก่ตายเพียงคืนละสองสามตัว เจ้าของกลับคิดว่าเป็นฝีมือพังพอน หรือไม่ก็เสือปลา แต่ถึงอย่างไร ชาวบ้านก็ยังไม่วายหวาดผวาอีผีลากไส้ที่น่าพรั่นพรึง

หลายคืนต่อมา ปีศาจสาวย่ามใจออกอาละวาดหนักขึ้นโดยฆ่าไก่ตายเป็นเบือ ขากลับยังลอยผ่านสองสัปเหร่อเฒ่าแจ้งกับอ้ายบุญ ซึ่งต่างก็มองเห็นถนัดว่า เป็นผู้หญิงผมยาวลอยพุ่งไปทางเรือนเฒ่าดวง ทิศทางเดียวกับกระท่อมยายจัน

เวลาเดียวกัน แม่เอื้อย ลูกสาวเฒ่าอิน (นิวัติ พูลศิริ) หัวหน้าหมู่บ้าน ซึ่งสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหมาเห่ากรรโชก สะกิดปลุกแม่อ้อยน้องเล็ก ลุกขึ้นชะเง้อมองทางหน้าต่าง ก็เห็นดวงไฟสว่างเรือง ลอยหายลับไปทางเรือนเฒ่าดวงเช่นกัน

รุ่งขึ้น อ้ายตื้อก็แล่นไปแจ้งเฒ่าอินนายบ้าน เรื่องไก่ที่เลี้ยงไว้ ถูกฆ่ากินเลือดและตับไตไส้พุงตายหมดทั้งเล้า ซึ่งไม่ใช่พฤติกรรมของเสือปลา หรือพังพอที่มักฉกไปกินทีละตัวสองตัว แต่มันน่าจะเป็นการกระทำของอีผีลากไส้ และเมื่อรู้จากสองสัปเหร่อขี้เมาว่า ผีร้ายเป็นผู้หญิงผมยาว ลอยหายไปทางเรือนเฒ่าดวงกับกระท่อมยายจัน ส่วนใหญ่ก็ปักใจว่า ต้องเป็นนางดาวกับยายจัน คนใดคนหนึ่งแน่นอน แต่นางดาวถูกสงสัยน้อยกว่า เพราะกลางวันเธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาๆ ไม่น่าจะมีฤทธิ์เดชอะไร

ฝ่ายนางดาวก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ พอถึงกลางคืนเธอพยายามตั้งสติ แข็งใจต่อต้านขัดขืนสุดฤทธิ์ แต่ก็สู้อำนาจวิญญาณร้ายไม่ได้ ต้องถอดหัวล่องลอยออกหากิน โดยที่สำนึกส่วนหนึ่ง รับรู้แล้วว่าตัวเองเป็นอะไร ออกหากินคราวนี้ปรากฏว่า เล้าไก่ทุกบ้านถูกสะสุมด้วยพงหนามแน่นหนา เช่นเดียวกับคอกวัวควาย เธอต้องหันเหออกไปจับกบเขียดกินกลางทุ่งนา และปะทะกับงูเห่าแทบเอาตัวไม่รอด

เมื่อผีลากไส้เปลี่ยนทำเลหากิน ไม่รบกวนสัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน และหายเงียบไป ผู้คนก็เริ่มเบาใจคลายวิตก และใช้ชีวิตกันไปตามปกติ พอตกค่ำบรรดาเด็กซนๆ ลูกทะโมนก็ชักชวนกันออกส่องกบจับจิ้งหรีดตามทุ่งนา แต่ก็ผ่าไปเจอผีลากไส้ ต้องเผ่นหนีตกน้ำท่ากันชุลมุนวุ่นวาย

หมดฝนกบเขียนในนาไม่มี ปีศาจร้ายก็หวนกลับเข้ามาหากินในหมู่บ้าน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประจวบเหมาะกั่บที่ นางแวว เมียอ้ายผา (ราชันย์ บุญชูวงศ์) เพื่อนสนิทของอ้ายรุ่ง ซึ่งท้องแก่ครบกำหนดคลอด ผีลากไส้จึงเข้าไปป้วนเปี้ยน วนเวียนรอบๆ บ้านด้วยความหิวโหย เพื่อหาโอกาสฉกเอาทั้งรก และเด็กอ่อนที่เพิ่งคลอดมาเป็นอาหาร กลุ่มชาวบ้านที่มาเฝ้าดูแลคอยช่วยเหลือแม่ลูกอ่อนเห็นเข้า จึงพากันระดมพลออกไล่ล่า

ปีศาจสาวถูกไล่ต้อนไปเข้ามุมอับ ต้องหลบซ่อนและพยายามกลั้นลมหายใจ เพื่อไม่ให้เกิดแสงวูบวาบ แต่ในที่สุดก็กลั้นไม่ไหว ต้องสูดลมหายใจเต็มแรง เปล่งแสงสว่างวาวจ้า ทำให้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาใกล้ ตื่นตระหนกสะดุ้งสุดตัว เธอจึงฉวยโอกาสพุ่งออกจากวงล้อม และถูกรุกไล่ติดตามอย่างไม่ลดละ จนกระทั่งถึงบ้าน และลอยหนีเข้าหน้าต่างห้องนอน แต่เมื่อชาวบ้านบุกขึ้นเรือนเฒ่าดวง ต่างก็ได้พบว่านางดาวยังนอนอยู่ในสภาพปกติ ถึงกระนั้นแทบทุกคนนอกจากอ้ายรุ่งก็ปักใจเสียแล้วว่า เธอคืออีผีลากไส้

หลังจากนั้นไม่นาน เฒ่าดวงก็จับได้ด้วยตัวเองว่านางดาวเป็นผีร้าย ขณะที่เธอถอดหัวออกไปหากิน โดยทิ้งร่างไว้บนที่นอน และแม้ชายชราจะถือว่าบุตรสาวได้ตายไปแล้ว ก็ไม่อาจหักใจเข่นฆ่า หรือแม้ทำร้ายร่างกายที่เคยเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ได้แต่ไล่ตะเพิดออกจากบ้าน สาวเคราะห์ร้ายจึงต้องซมซานจากเรือนพ่อ กระเซอะกระเซิงไปไหนก็ไม่มีใครต้อนรับ ท้ายที่สุดก็ต้องไปอาศัยอยู่กับอ้ายรุ่งคนรักจนได้เสียกัน

ชาวบ้านต่างซุบซิบนินทาที่อ้ายรุ่งอยู่กินกัยผีลากไส้ และพากันตีตัวออกห่าง ตั้งข้อรังเกียจไม่ยอมคบหาสมาคมด้วย ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่นำพา เพราะถือว่าไม่ได้ขอข้าวใครใส่ท้อง ในเวลาเดียวกัน คืนไหนที่ผัวเผลอหรือหลับสนิท นางดาวหรือตาราวตี ก็ถอดหัวล่องลอยออกหากินเช่นเดิม และ จะเช็ดปากกับผ้าที่ตากทิ้งไว้ตามราว เพื่อลบร่องรอยเปรอะเปื้อน ทุกครั้งก่อนกลับบ้าน

คืนหนึ่ง อ้ายรุ่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาขณะทีเมียรักกำลังถอดหัวออกจากร่างพอดี เขาเพิ่งเชื่อเอาตอนนี้เองว่า นางดาวเป็นปีศาจร้ายที่น่าสะพรึงกลัว แต่อ้ายรุ่งก็เช่นเดียวกับเฒ่าดวง ที่ไม่อาจตัดใจเข่นฆ่าคนเคยรักกันปานจะกลืน เขาจึงเผ่นไปหาอ้ายผาเพื่อนสนิท แล้วพากันไปพบท่านพระครูเจ้าอาวาส เพื่อปรึกษาหารือขอความช่วยเหลือ 

ท่านพระครูนั่งทางในตรวจสอบดูเสร็จสรรพ ก็ชี้แจ้งกับคนทั้งสองว่า ความจริงนางดาวตายไปแล้ว เหลือเพียงจิตวิญญาญที่ยังไปไหนไม่ได้ และถูกครอบงำด้วยอำนาจปีศาจร้าย ซึ่งเป็นเจตภูตของผู้เรืองเวทย์วิทยาคมแก่กล้าจากเมืองขอม ซึ่งปีศาจชนิดนี้ ชาวขอมเรียกว่า "อาป" ซึ่งแปลว่า กระสือ

ส่วนวิธีล้างอาถรรพ์และขับไล่ปีศาจร้าย คือใช้ไฟเผา แต่ก็ดูจะเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนโหดร้าย เพราะมันเหมือนจับคนที่ยังมีชีวิตมาเผาทั้งเป็น ทางออกที่ดีกว่าคือการเผาด้วยตาไฟ ที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปจะไม่รู้สึกร้อน แต่ภูตผีปีศาจ จะร้อนไหม้ทรมานทรกรรมจนเหลือจะทน ซึ่งท่านพระครูเองก็มีวิชานี้ติดตัว เนื่องจากเป็นศิษย์เอกจองฤษีตาไฟ (สมัยนั้นพระดาบส หรือฤษีตบะแก่กล้ามีอยู่จริง พ่อขุนรามคำแหง หรือพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย กับพระยางำเมืองแห่งอาณาจักรพะเยา ก็เคยร่ำเรียนวิชาสารพัด จากพระฤษีดอยด้วน และสุกกทันตฤษีแห่งกรุงละโว้ เป็นศิษย์เอกร่วมอาจารย์เดียวกัน) ดังนั้น ท่านพระครูจึงต้องรับหน้าที่ปราบปีศาจ "อาป" หรือ กระสือโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง

ตาราวตีหรือนางดาวออกหากินครั้งสุดท้าย และเช็ดปากกับผ้าที่ตากไว้บนชานเรือนเฒ่าอิน และเมื่อลอยกลับถึงบ้านคืนสภาพปกติ อ้ายรุ่ง อ้ายผา และท่านพระครู ซึ่งรอเวลาอยู่แล้ว ก็จัดแจงตั้งศาลเพียงตาโดยวางหัวฤาษีไว้บนศาล หันหน้าเข้าหาเรือนอ้ายรุ่ง ก่อนจะประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดาบูชาคณาจารย์ จากนั้น ท่านพระครูก็โอมอ่านมหาเวทฤษีตาไฟ ซึ่งเป็นคาถาบทสั้นๆ เพียงสี่พยางค์ -- ละสี มะนี อะคิ เตโจ (แปลเป็นไทย คือ ฤษี มุนี อัคคี เตโช) ท่อนทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเร่งความเร็วขึ้นเป็นลำดับ ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มวิปริต กดดันหน่วงหนักขึ้นทุกขณะ 

ตาราวตีในร่างของนางดาวสะดุ้งตื่น ด้วยความตระหนกพรั่นพรึง แต่ไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น หัวฤษีบนศาลก็เปิดตาที่ 3 กลางหน้าผาก ส่องแสงสว่างสาดเข้าจับเต็มตัว เกิดเปลวไฟโหมไหม้รุนแรง จนปีศาจสาวทนไม่ได้ ต้องละทิ้งร่างนางดาวถอดเจตภูติลอยหนี แต่ก็ยังถูกไฟอาถรรพ์แผดเผามอดไหม้จนสิ้นฤทธิ์ กลายเป็นดวงวิญญาณเล็กๆ ลอยขึ้นสู่เบื้องบน นั่นแหละ หัวฤาษ์ถึงได้ปิดตาที่ 3 แสงสว่างและเปลวไฟหายวับ ทุกอย่างคืนเข้าสู่สภาวะปกติ ร่างนางดาว สาวเคราะห์ร้ายนอนสงบนิ่ง โดยปราศจากร่องรอยไฟไหม้และลมหายใจ เนื่องจากเธอได้ตายไปก่อนแล้ว 

ทุกอย่างจบสิ้นในเวลารุ่งเข้าพอดี แม่อ้อย น้องเล็กของนางเอื้อย ซึ่งกำลังแตกเนื้อสาว เพิ่งลุกจากที่นอนออกมาล้างหน้าบ้วนปากนอกชาน เสร็จแล้วใช้ผ้าผืนที่ตากไว้บนราวเช็ดปากและหน้าตา มันเป็นผ้าผืนเดียวกับที่ปีศาจกระสือ เช็ดปากเมื่อตอนกลางคืนนั่นเอง ..ดวงตาของแม่อ้อยสาวรุ่น แตกประกายลุกวาบ ! 

ตัวอย่างหนัง







{[['']]}

ขุุนแผน


เรื่องย่อ
เรื่องราวโศกนาฎกรรมความรัก ก่อกำเนิดจากนักรบผู้อหังการนาม ขุนแผน ผู้เป็นทั้งนักรบ นักรัก และจอมขมังเวทย์ เดิมขุนแผนนั้นมีนามว่า พลายแก้ว (รับบทโดย ด.ช.ณภัทร เสี้ยนสลาย) เป็นบุตรชายคนเดียวของ ขุนไกรพลพ่าย (รับบทโดย ณัฐ เกษานนท์) ทหารเอกหน่วยหน้า ประจำกองทะลวงฟัน ผู้มากด้วยคาถาและฝีมือรบ ชีวิตนี้มอบให้เป็นข้าแผ่นดิน ต่อองค์กษัตริย์นาม พระพันวสา (รับบทโดย ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง)

จนอาเพศก่อเกิดชะตากรรมของชายผู้นี้ในวัยเยาว์ เมื่อพระพันวสากริ้ว ประกาศลงอาญาให้ตัดหัวขุนไกร เนื่องจากฝูงควายป่าที่ขุนไกรต้อน เกิดเตลิดเข้าหาพระพันวสา... พลายแก้วกับขุนช้าง (รับบทโดย ด.ช.วัฒนา รอดเลี้ยง) และนางพิมพิลาไลย (รับบทโดย ด.ญ.ชนกานต์ พิพัฒน์วุฒิธร) กลับเล่นพิเรน ผิดวิสัยเด็กเมื่อไอ้ช้าง เล่นเป็นผัวพิมพิลาไลย แต่พิมกลับนัดแนะ ให้เจ้าพลายแก้วมาชิงตัว เหตุนี้ไอ้ช้างและพลายแก้ววิวาทกันโกลาหล แต่นางพิมกลับถูกลงหวายเฆี่ยนตี ด้วยว่าเป็นหญิง กลับมาเล่นเรื่องน่าอับอาย

เด็กน้อยพลายแก้ว แอบตามพ่อไปดูเขาต้อนควาย กลับต้องเห็นภาพผู้เป็นบิดา ถูกลงทัณฑ์ให้บั่นหัว ข้างนางทองประศรี (รับบทโดย ศศิพิณ ศาสตร์สมบูรณ์) เมียขุนไกรรู้ความ ก็พาลูกระเห็จหนีตาย ไปหาญาติที่เมืองกาญจนบุรี ให้เจ้าพลายแก้วบวชเรียนเป็นเณรเสียกับท่านสมภารบุญ วัดสัมใหญ่

เติบใหญ่ท่านสมภารบุญหมดภูมิจะสอนพลายแก้ว (รับบทโดย เอกพงษ์ ตันติพงษ์) ก็ส่งตัวมาเรียนกับขรัวมี (รับบทโดย พนม ศิริสุวรรณ) ที่วัดป่าเลไลย เมืองสุพรรณ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของขุนแผน และรักแรกก็ถือกำเนิดขึ้น เมื่อเณรแก้ว (รับบทโดย วัชระ ตังคะประเสริฐ) ได้พบหน้า นางพิมพิลาไลย (รับบทโดย บงกช คงมาลัย) อีกครั้ง ไม่นานเจ้าพลายแก้วก็ละผ้าเหลือง ได้เสียเป็นเมียผัวกับแม่พิม พลายแก้วชิงให้แม่สื่อมาขอ โดยอ้างว่าสองคนนั้นได้เสียกันแล้ว คืนวันส่งตัว พลายแก้วก็ได้เมียใหม่ชื่อ สายทอง (รับบทโดย พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ผู้เป็นพี่เลี้ยงนางพิม โดยไม่รู้ว่านางพิมนั้นแอบเห็น

ขุนช้าง (รับบทโดย อภิชัย นิปัทธหัตถพงศ์) โกรธแค้นนัก ประจวบกับคราวนั้น มีเหตุเมืองเชียงใหม่กลับคิดก่อกบฎ ขุนช้างได้ทีหวังแย่งนางพิมกลับคืน จึงทูลพระพันวสา ให้พลายแก้วทำศึกในครั้งนี้ พลายแก้วจากไป ทิ้งไว้กับบาดแผลในใจนางพิม กับภาพที่เห็นผัวตัวนั้นสังวาสกับสายทอง ระหว่างพลายแก้วไปออกรบ นางพิมอันเป็นที่รัก จึงถูกขุนช้างพรากจาก เพราะใช้เล่ห์เหลี่ยม หลังจากถูกขุนช้างข่มเหง เมื่อพลายแก้วกลับมาจากรบที่เชียงทอง ได้ประทานนามเป็น ขุนแผน พร้อมพา ลาวทอง (รับบทโดย จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์) ลูกสาวเจ้าเมืองจอมทองกลับมาด้วย ขุนแผนทราบเรื่องว่า นางพิมตกเป็นเมียขุนช้างก็โกรธแค้น ตราหน้าว่าเป็นวันทองสองผัว ก็คิดเกลียดชังเป็นการใหญ่ ทิ้งให้นางวันทองยิ่งตรอมใจจะผูกคอตาย แต่ขุนช้างช่วยมาได้ ในคืนนั้นขุนช้างเมา จึงใช้กำลังขืนใจนาง ขุนแผนคิดจะชิงวันทองคืนแต่ไม่สำเร็จ พระพันวสาทราบเรื่อง จึงสั่งให้เรียกทั้งคู่เข้าเฝ้า ให้รับราชการในวัง ให้ทั้งคู่ปรองดองกัน ขุนแผนคิดถึงนางลาวทองจนทนไม่ไหว หนีเวรกลับไปหา ขุนช้างจึงเข้าเท็จทูลว่า ขุนแผนคิดกบฎ จึงโดนเนรเทศ พร้อมยึดทรัพย์สินและนางลาวทองเข้าวัง

ขุนแผนเข้าป่า ตัดสินใจเปิดตำราของขุนไกร เข้าปลุกผีพรายในป่าช้า ตามหาดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทองเพื่อใช้เสริมบารมี ในระหว่างตามหาของวิเศษทั้งสามสิ่ง ขุนแผนได้พบรักกับนางบัวคลี่ (รับบทโดย พิลาสลักษณ์ เขียวโต) ในป่า กลับถูกหมื่นหาญ (รับบทโดย ภรัณ ปักษานนท์) หัวหน้าโจรซึ่งเป็นพ่อบัวคลี่หักหลัง เพื่อจะเอาตำราวิเศษและม้า ขุนแผนรู้ทันจึงหลอกให้บัวคลี่ยกลูกให้ และลงมือทำกุมารทองทันที

ขุนแผนนำของสามสิ่ง บุกคุ้มขุนช้างเพื่อชิงตัวนางวันทอง แค่เข้าห้องผิดไปพบ แก้วกิริยา (รับบทโดย ศุภักษร ไชยมงคล) ขุนแผนจึงให้เงินนางไว้ไถ่ตัว และไปชิงนางวันทองจนสำเร็จ พาหนีเข้าไปอยู่ในป่าจนนางตั้งท้อง ขุนช้างทราบว่าขุนแผนมีของดี จึงใช้เล่ห์ขอพระพันวสาไปจับนางทองประศรี แม่ของขุนแผนเป็นตัวประกัน ขุนแผนจึงจำต้องออกจากป่า เพราะกลัวแม่ลำบาก จนต้องติดคุกอยู่ 17 ปี จนพลายงามโตเป็นหนุ่ม ทั้งรูปงามทั้งเก่งไม่แพ้พ่อ เกิดศึกที่เชียงทองอีกครั้ง พลายงาม (รับบทโดย วุฒินันท์ ไหมกัน) จึงทูลขอออกรบ เนื่องด้วยพลายงามยังอ่อนประสบการณ์ จึงให้จมื่นศรี (รับบทโดย นิมิตร พิพิธกุล) ปล่อยขุนแผนออกมารบช่วยลูก พลายงามกือบพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าเมืองเชียงใหม่ (รับบทโดย ทักษิณ บุญพงษา) แต่ขุนแผนมาช่วยไว้ทันจนชนะ เมื่อกลับมาจึงได้ความดีความชอบ พลายงามให้ขุนแผนไปรอที่ไร่ฝ้าย พลายงามไปลักตัวนางพิมจากขุนช้าง และเปิดเผยเรื่องที่ขุนช้าง เคยหลอกตนไปฆ่าที่กลางป่า ขุนช้างเลือดขึ้นหน้า รีบนำความขึ้นทูลพระพันวสา พระองค์จึงรับสั่งให้นำตัวนางพิมมาตัดสิน เพื่อถามว่านางต้องการอยู่กับใคร นางพิมเลือกไม่ได้ พระพันวสาจึงรับสั่งให้ประหาร

ขุนช้างเสียใจมาก ให้คนไปตามขุนแผนและพลายงามมาขอชีวิตแม่พิม ขุนแผนควบม้าสีหมอก มาจนถึงเข้าขวางดาบแรกไว้ทัน ขุนแผนขอให้นางหนีไปด้วยกัน แต่นางพิมไม่ยอม ขุนแผนจึงถามว่าไม่รักตนหรืออย่างไร แม่พิมจึงว่า คำพูดเพียงลมปาก จะว่าอย่างไรก็ได้ พูดไปแล้วขุนแผนจะเชื่อนางหรือ ที่ขุนแผนว่ารักนางจริง ยังไปมีผู้หญิงอื่นอีกมากมาย นางขอเลือกเองเป็นครั้งสุดท้าย และขออโหสิกรรมต่อกัน

พลายงามกลับมาทูลขอชีวิตแม่ กับพระพันวสาได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ทันการณ์ ขุนช้างถึงกับเป็นบ้า สุดท้ายขุนแผนได้นางลาวทอง และแก้วกิริยาคืน ได้ครองเมืองกาญจนบุรี แม้ว่าขุนแผนจะมีลาภยศ และอำนาจบารมีมากมาย แต่หาได้มีความสุขไม่ ด้วยขาดคนที่ตนรักอย่างแท้จริง..

ตัวอย่างหนัง










{[['']]}

ขังแปด


เรื่องย่อ

ขังแปด เป็นเรื่องราวของหญิงสาว ที่มีพื้นเพแตกต่างกันไป อันประกอบด้วย ดาวไสว (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสิร์ฐ), พักตร์, เพ็ญ, จอย, ก้อย, หวี และ เทวีรัตน์ คือกลุ่มนักโทษหญิงเด็ดขาดใน "แดน 8" ทั้งหมดมาจากภูมิหลังที่แตกต่าง ทั้งครอบครัว สภาพแวดล้อม และพื้นฐานทางจิตใจ แต่ทั้งหมดคือ "นญ."หรือ นักโทษหญิง ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษขั้นเด็ดขาด

มาลี (ภัทรวรินทร์ ทิมกุล), อรุณวรรณ (กนกพร โลศิริ), เอียด (พิชญ์นาฎ สาขากร) คือ กลุ่มโสเภณีอิสระ ที่แทบจะไม่แตกต่าง ไปจากกลุ่มนักโทษเด็ดขาดเช่น ดาวไสว พักตร์ เพ็ญ และคนอื่นๆ

ภายใต้อิสระเสรีภาพของ มาลี อรุณวรรณ และเอียด พวกเธอก็คือหญิงสาวที่ถูกพันธนาการกักขัง ด้วยพันธะ และเงื่อนไขของชีวิต ที่แตกต่างกันไปตามสถานภาพ ความคิด และภูมิหลังของแต่ละคน

แต่หญิงสาวสองกลุ่ม แทบจะไม่แตกต่างในความคิดและพฤติกรรม ที่เชื่อมั่นว่า พวกเธอมีศักดิ์และศรี เทียบเท่ากับผู้ชายในสังคมไทย เธอไม่เคยป่าวประกาศ แต่เธอกระทำให้โลกได้เห็นและรับรู้ ดาวไสว ไพจิตร ถูกชะตากรรมกำหนด ให้เส้นทางชีวิตของเธอ ต้องผ่านโลกของหญิงสาวทั้งสองกลุ่ม ในฐานะเพื่อนสมาชิกของสังคม นักโทษหญิงและโสเภณีอิสระ ในฐานะผู้สังเกตการณ์

แน่นอน - เวลาที่เนิ่นนานในคุก ย่อมก่อให้เกิดเรื่องราวมากมาย สำหรับชีวิตที่อยู่ภายในกำแพงสูง รั้วลวดหนาม และกฎเหล็ก ทุกคนต่างถูก "ขัง" ทั้งความขัดแย้ง ความรุนแรง กามารมณ์ ความฝันถึงอิสระภาพ

โลกหลังกำแพงคุกและโลกนอกกำแพงคุก ได้ถูกร้อยรัดให้เป็นโลกใบเดียว โลกใบที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ล้วนกักขังด้วย "พันธนาการแห่งชีวิต"ที่อาจจะเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่กำแพงสูง ลวดหนาม ลูกกรงเหล็ก ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ไปจนกระทั่ง "ใจ" ผ่านสายตา ความทรงจำ และบันทึกของ ดาวไสว ไพจิตร อดีตนักโทษหญิงเด็ดขาด ซึ่งได้รับอิสระภาพ สู่ "คุก"ใหม่แห่งชีวิต ที่เต็มไปด้วยการดิ้นรนต่อสู้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด เปรียบเสมือนเธอก้าวออกจาก "คุก" หนึ่ง เพื่อที่จะไปรับโทษทัณฑ์ในอีกคุกหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...

โลกภายนอกกำแพงคุก อาจจะดูมีอิสระ มีเสรีภาพ แต่ใครเล่าจะพิสูจน์ หรือยืนยันได้ว่า มันปลอดภัย อบอุ่นกว่าโลกหลังกำแพงคุก

บางครั้ง ในโลกที่เต็มไปด้วยอิสรภาพ ความรู้สึกภายในอาจไม่ต่างกับการถูกจองจำ เฉกเช่นชะตากรรมของหญิงสาวสองกลุ่ม ที่ผูกพันเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน ด้วยสายใยแห่งความเป็นเพื่อน ความรัก ความเอื้ออาทร แม้ว่าพวกเธอจะมีพื้นฐานของชีวิตที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเธอมีเหมือนกัน ก็คือชะตากรรมที่ถูกกำหนดโดยเพศชาย


ตัวอย่างหนัง








{[['']]}

โก๋หลังวัง


เรื่องย่อ
ปี พ.ศ. 2503 "วังบูรพาภิรมย์" คือ แหล่งรวมวัยรุ่นชาย-หญิง ที่มีรสนิยมทั้งหลาย ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย สถานที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยวัยรุ่นผู้นำแฟชั่นในทุกด้าน กระแสความนิยมที่เกิดขึ้น จากนักร้องดังของฝรั่งอย่าง เอลวิส เพรสลีย์, เจมส์ ดีนส์ ส่งผลถึงการแต่งกาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเสื้อผ้า หรือว่าทรงผม ล้วนถอดแบบมาจากแม่แบบเมืองฮอลลีวู้ดแทบทั้งสิ้น รวมถึงกลุ่มนักเรียนชายสุดหล่อนิสัยดีที่มี วาทิน (อานัส ฬาพานิช) เป็นหัวหน้ากลุ่มด้วย

แต่เมื่อวาทินเกิดไปตกหลุมรัก จำปูน (บัณฑิตา ฐานวิเศษ) สาวสวยน้องขาใหญ่แห่งวังบูรพา ที่ชอบใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยอย่าง จำเป็น (สินชัย หอมทวล) สงครามแห่งลูกผู้ชายก็เริ่มต้นขึ้น

เมื่อชายทั้งหมดเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ที่มีความฝันคุกรุ่นอยู่ในหัวใจ เมื่อทุกกลุ่มต่างมีศักดิ์ศรี ที่ไม่มีสิ่งใดมาลบล้างได้ เมื่อทุกวินาทีแห่งความรัก ทำให้ชีวิตมีความหมายมากกว่าเดิม และเมื่อทุกอุดมการณ์รวมตัวกัน เป็นหนึ่งเดียวแห่งวังบูรพา ในนามแห่ง "โก๋หลังวัง"







{[['']]}

7 ประจัญบาน ภาค 2


เรื่องย่อ
ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นแพร่ขยายอำนาจและอิทธิพล ไปทั่วเอเชียอาคเนย์ ทำให้ทางการไทยมอบหมายงานชิ้นสำคัญผ่านมายัง ผู้กององอาจ (ประกาศิต โบสุวรรณ) ให้เหล่า 7 ประจัญบานปฏิบัติภารกิจลับ สำคัญระดับสุดยอดของประเทศ ตรวจสอบพฤติกรรมอันน่าสงสัยของ สุริยะ ที่คาดว่าอาจจะเป็นสายลับของทางการญี่ปุ่น ที่มาในคราบของนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในเมืองไทย

แต่กลับกลายเป็นว่า ภารกิจดังกล่าวหาได้สำเร็จลุล่วงง่ายดายอย่างที่คิดไม่ เมื่อผู้นำของ 7 ประจัญบานอย่าง จ่าดับ จำเปาะ (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) กลับพลาดพลั้งทำให้ ผู้พันทีเคดะ พ่อของสุริยะเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ทำให้เหล่า 7 ประจัญบานกลายเป็นบุคคลต้องห้าม ที่ นายพลนากามูระ ผู้นำทัพของญี่ปุ่นโกรธแค้น และยื่นคำขาดให้ทางการไทย ส่งตัวจ่าดับและพรรคพวกทั้ง 7 มาสำเร็จโทษประหารชีวิต เป็นเหตุให้ประจัญบานทั้ง 7 ต้องรับมือกับทั้งทางการไทย และเหล่าทหารญี่ปุ่น รวมทั้งกลุ่มมือสังหารที่ถูกส่งตรงมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ 7 เซียนซามูไร จนต้องระหกระเหินไปร่วมกับกลุ่มพี่น้องไทยจีน ที่ร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น ซึ่งมีหน้าฉากคือคณะนักแสดงงิ้วที่มีชื่อเสียงของเตี่ยตังกวย เกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งใหม่ของ 7 ประจัญบาน ที่ครั้งนี้ต้องทาหน้าขาวแต่งชุดงิ้ว รำพลองตะลุยกองทัพญี่ปุ่น เหินขึ้นฟ้าเผชิญหน้ากับกองบินกามิกาเซ่ของญี่ปุ่น ภายใต้ฉากไฮไลท์สุดอลังการ กับการเนรมิตสะพานข้ามแม่น้ำแควขึ้นมาอีกครั้ง ในฉากไคลแม็กซ์สำคัญ พร้อมทั้งเปิดเผยที่มา ของกางเกงแดงเชือกกล้วยอันลือลั่นของจ่าดับ รวมถึงเรื่องราวความรักครั้งก่อนของจ่าดับที่มีต่อ โฉม (อภิรดี ภวภูตานนท์) และตัวละครสุดคลาสสิก ที่เกิดมาแล้วย่อมไม่แคล้วที่อาจจะกลายเป็น 'คู่กำ' ของกันอย่าง อังศุมาลย์ (มินท์ - อาทิตยา ดิถีเพ็ญ) และ โกโบต้า (ก้อง - อรรฆรัตน์ นิติพน)
ตัวอย่างหนัง






{[['']]}

7 ประจัญบาน ภาค 1


เรื่องย่อ
ในช่วง สงครามเวียดนาม ได้มีชายไทย 7 คนที่ทำภารกิจรบเพื่อชาติ ได้แก่ จ่าดับ จำเปาะ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง), หมัด เชิงมวย (เท่ง เถิดเทิง), ตังกวย แซ่ลี้ (ทศพล ศิริวิวัฒน์), อัคคี เมฆยันต์ (อัมรินทร์ นิติพน), ดั่น มหิทธา (พิเศก อินทรครรชิต), กล้า ตะลุมพุก (แช่ม แช่มรัมย์) และ จุก เบี้ยวสกุล (ค่อม ชวนชื่น) หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจรบเพื่อชาติ ก็ต่างแยกย้ายกันไปตามแดนดินถิ่นมาตุภูมิ ที่ต่างถือกำเนิดกันไป กลับไปหาเหล่าผู้คนที่อยู่ข้างหลัง ที่คอยเป็นกำลังใจ รอคอยวีรบุรุษในใจของพวกเขามาตลอดชีวิต บ้างก็ได้ดิบได้ดี บ้างก็ยังคงวนเวียนไป ตามวัฏจักรแห่งการดิ้นรนต่อสู้ เพียงทว่าครานี้ ไม่ได้รบราฆ่าฟันกับผู้คนต่างชาติ ที่เคยมารุกรานอีกต่อไป แต่เป็นการดิ้นรนต่อสู้กับบางสิ่ง ที่สถิตย์อยู่ภายในจิตใจของตนเองต่างหาก คน 7 คนที่มีเอกลักษณ์ความแสบ เจ็บแปลบ ในแบบฉบับที่ไม่มีใครเหมือน และรับรองว่าไม่เหมือนใคร เริ่มปฏิบัติการตามแผน ภารกิจต่อมา กล้าหาญลุกขึ้นสู้กับพวกทหารอเมริกัน ซึ่งนำโดย หมวดปีเตอร์ (ปีเตอร์ ไมออคซิ) รวมทั้งคู่อริเก่าอย่างเสือเอ๋อและพรรคพวก




{[['']]}

ดู เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน ทุกตอน อัพเดตทันทีที่มีการออกอากาศ กดเลย

ดู Hormones วัยว้าวุ่น Season 2 ทุกตอน กดที่นี่

ดู Hormones วัยว้าวุ่น Season 1 ทุกตอน กดที่นี่